หลักการออกแบบอะคูสติกของห้องเบื้องต้นนั้น มีหลักคิดง่ายๆ 2 ขั้นตอน ดังนี้
1. ป้องกันเสียงจากภายนอก ไม่ให้เสียง เข้า-ออก ได้จนเกินพอดี
“Reduce Sound Transmission Between Rooms” หรือ การลดเสียงเข้า-ออก ระหว่างห้อง ถือเป็นหัวใจสำคัญแรกที่เราจะต้องคำนึงถึง เพื่อการออกแบบให้ห้องได้รับเสียงที่เหมาะสม ซึ่งวิธีการจัดการกับขั้นตอนนี้นั้น ก็คือการพิถีพิถันตั้งแต่ในขั้นตอนการก่อสร้าง ที่จะเลือกใส่วัสดุที่สามารถลดเสียงจากภายนอกเข้ามาภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหากเราเลือกใช้วัสดุที่ปล่อยให้เสียงเข้ามาได้ง่ายเกินไป ก็จะทำให้ห้องของเราเสียงดัง และก่อความรำคาญได้ง่ายจนอยู่ได้อย่างไม่มีความสุขนั่นเอง
2. การควบคุมเสียงภายใน ให้ไม่สะท้อนย้อนทำร้ายตัวเราเอง
“Control Sound Reverberation in the Room” หรือ การควบคุมการสะท้อนของเสียงในห้อง เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องทำนอกเหนือจากการลดเสียงเข้าออกจากภายนอก เพราะหากเราไม่ทำการควบคุมการสะท้อนภายในห้องให้เหมาะสมแล้ว เสียงที่ผ่านเข้าห้องเรามาจากภายนอก แม้จะถูกลดทอนระดับเสียงมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังสามารถเข้ามาสะท้อนภายในห้องเรา เกิดเป็นเสียงก้อง ที่สร้างความรำคาญใจได้
ในขณะเดียวกัน เสียงที่เกิดจากภายในห้องเราเอง ที่ไม่ได้รับการควบคุมจากภายใน ก็จะก้องสะท้อนจนทำให้มีประสิทธิภาพลดลง ผู้ฟังหรือผู้รับสารอาจจะไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง ได้ยินไม่ชัด หรือลดอรรถรสของเสียงนั้นลง อย่างเช่นในห้องประชุมที่เสียงก้องเกินไปจนผู้ร่วมประชุมฟังไม่รู้เรื่อง ฟังไม่ทั่วถึง หรือห้องแสดงดนตรีที่เสียงสะท้อนเยอะเกินไปจนทำให้เสียงนักร้องถูกลดความไพเราะลงได้ เป็นต้น นั่นเองจึงทำให้ในการออกแบบห้อง ต้องออกแบบให้มีวัสดุที่สามารถดูดซับเสียงได้ดี และมีปริมาณที่เหมาะสมสำหรับห้องแต่ละประเภทด้วย