นับเป็นสิ่งที่บั่นทอนทำลายความสุขในการอยู่อาศัยโดยแท้ หากทุกวันทุกคืน เราต้องรู้สึกแย่ กับปัญหาเสียงดังรบกวน ไม่ว่าจะจากเพื่อนบ้านข้างๆ จากเสียงรถราบนท้องถนน และจากเสียงกิจกรรมในตลาด หรือโรงงานใกล้เคียงบริเวณบ้าน ซึ่งเชื่อว่าทุกๆ ครัวเรือนที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้ ต่างก็พยายามหาวิธีแก้ไขเพื่อคืนความสุขสงบให้กับตัวเองกันอยู่อย่างขะมักเขม้น แต่ทั้งนี้ ทราบหรือไม่ครับว่า หากเราแก้ไขปัญหาด้วยความรรีบร้อน ด่วนสรุปตัดสินใจ ไม่เพียงแต่จะทำให้ปัญหาเสียงดังไม่ถูกคลี่คลายแล้ว เราอาจจะยังต้องสิ้นเปลืองสูญเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากอีกด้วย เพราะแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด ดังนั้น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเสียงดังรบกวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ภายใต้งบประมาณที่ถูกที่สุดนั้น เราควรดำเนินการตามแนวทาง ดังต่อไปนี้
1. เสียงดังผ่านมาจากทางไหน ต้องหาสาเหตุให้เจอก่อน
แม้เราจะทราบแน่ๆ ว่า “ต้นกำเนิดเสียงดัง” นั้นมาจากรถบนท้องถนน จากตลาดสดใกล้บ้าน หรือจากเพื่อนบ้านห้องข้างๆ แต่สิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาเสียงดังรบกวนนั้น เราต้องทราบให้ได้ว่า “เสียงเหล่านั้นดังทะลุผ่านเข้ามายังห้องเราได้ทางไหน” ด้วย เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกจุด เราต้องดูว่า เสียงดังทะลุผ่านเข้ามาจากช่องหน้าต่าง บานประตู ตามช่องแอร์ หรือทะลุผ่านกำแพงบ้านเรามาได้เลย เพราะผนังห้องบางจนเกินไปกันแน่ หรือเป็นเพราะหลายๆ สาเหตุรวมกัน เพราะหากเราทราบไม่หมด ก็เท่ากับเราแก้ไปยังไม่ถูกจุด ยังไม่ครบทุกจุด ซึ่งสุดท้ายก็จะทำให้เสียงดังยังคงอยู่รบกวนเราได้ต่อไป
2. แก้ไขปัญหาไปทีละขั้น อย่าเพิ่งหุนหันจัดเต็มชุดใหญ่ในคราวเดียว
หลายๆ ครั้งพอรู้สึกว่าห้องมีปัญหาเสียงดัง เราก็มักจะรื้อทำห้องใหม่เลยในทันที เปลี่ยนประตูไปเลยบ้าง เปลี่ยนผนังไปเลยบ้าง ทำหน้าต่างใหม่บ้าง จัดรื้อบ้านใหม่บ้าง ฯลฯ ทำให้ต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็อย่างที่บอก ถ้ายิ่งยังหาสาเหตุที่แท้จริงเจอไม่ครบด้วยแล้ว ก็อาจกลายเป็นตำน้ำพริกละลายแม้น้ำไปได้ คือจ่ายไปตั้งเยอะ แต่สุดท้ายเสียงดังรบกวนก็ยังคงไม่จางหายไป ทั้งนี้ แนวทางในการแก้ไขปัญหาเสียงดังที่ดีที่สุด และประหยัดที่สุด จึงควรค่อยๆ การแก้ไขไปทีละขั้น เลือกใช้วิธีที่มีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดไปก่อน เพื่อดูว่าได้ผลหรือไม่ แล้วค่อยวางแผนขั้นต่อๆ ไป ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น หากเราพบว่าประตูและหน้าต่างเป็นทางผ่านของเสียงดังรบกวน ก่อนจะเปลี่ยนประตูไปเลย บางทีเราอาจใช้เพียงแค่ Noise Zeal หรือ “เทปกาวป้องกันเสียง” ที่ใช้ได้ทั้งกับประตูและหน้าต่างก่อนก็ได้ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายแค่หลักร้อย แต่มีความสามารถลดเสียงดังลงได้ประมาณครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ต้องไปเสียค่าทำประตูใหม่ ทำหน้าต่างใหม่ ที่บางทีต้องจ่ายไปเป็นหมื่นๆ แต่กลับไม่ได้ทำให้รู้สึกเลยว่า เสียงดังเบาลง
3. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้งานแก้ไขปัญหาเสียงได้ผลดีที่สุด
การแก้ไขปัญหาเสียงดัง เป็นศาสตร์ที่มีความยากและซับซ้อน ที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงโดยเฉพาะ ซึ่งหากเราเลือกที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ก็จะทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด และควบคุมงบประมาณในการแก้ไขได้ดี เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านเสียง สามารถตรวจวัดระดับเสียงดังได้อย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ช่องทางที่เสียงทะลุผ่านมานั้นอยู่ตรงไหนบ้าง? ต้องแก้ไขอย่างไรบ้าง? ทำให้สามารถวางแผนในการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ไม่ต้องสูญเสียเวลาไปกับการแก้ไขที่อาจจะไม่ตรงจุด ไม่ครบถ้วน และต้องกลับมาแก้ไขซ้ำเดิม ดังนั้น ในแนวทางที่ดีที่สุดของการแก้ไขปัญหาเสียง การเลือกปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากที่สุด
การแก้ไขปัญหาเสียงดังรบกวนจากภายนอก ทะลุผ่านเข้ามาในห้อง ในที่อยู่อาศัยนั้น หากทำอย่างรอบคอบ ถูกต้อง และตรงจุด จะทำให้เป็นการแก้ไขเพียงแค่ครั้งเดียว เพื่อให้เราได้ที่อยู่อาศัยที่สงบสุขกลับคืนมาตลอดไป ดังนั้น การใส่ใจ พิถีพิถัน ในการแก้ไข จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากเรารีบร้อน ไม่ตรวจสอบที่มาที่ไปของปัญหาเสียงให้ดี หรือมองข้ามการเลือกปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยตรงไป ก็อาจทำให้เราต้องเสียค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ ต้องเสียเวลาแก้ไขหลายรอบ แถมต้องรอคอยอย่างยาวนาน กว่าจะได้บ้านที่เงียบ สงบสุข อย่างที่ใจต้องการมาครอง
สนใจและต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเสียง สามารถติดต่อวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านอะคูสติกของเราได้ที่ คุณณัฐคม สุวรรณกุล 085-488-2527