ออฟฟิศสำนักงานไหนมีปัญหาเสียงดังรบกวน อาทิ เสียงรถ เสียงถนน เสียงชุมชนภายนอกดังทะลุเข้ามาภายในห้องทำงาน ห้องประชุม ฯลฯ ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ ที่จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานโดยตรง ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้พนักงานไม่สามารถทำผลงานคุณภาพได้ตามเป้า และนำไปสู่การมียอดขาย ยอดรายได้ที่ต่ำลงได้ ดังนั้น การเร่งวางแผนติดตั้ง ผนังกันเสียงออฟฟิศ จึงเป็นภารกิจสำคัญเร่งด่วน ที่ไม่ควรผัดวันประกันพรุ่ง
อย่างไรก็ตาม ในการติดตั้งระบบผนังกันเสียงออฟฟิศนั้น นอกจากการให้ความสำคัญกับการเรื่องใช้ “แผ่นกันเสียง” ที่มีประสิทธิภาพ มีความสามารถในการกันเสียงดังทะลุเข้าออกได้ดีแล้ว ก็ยังมีเรื่องสำคัญที่ควรต้องรู้ ต้องเฝ้าระวัง ก่อนตัดสินใจติดตั้งผนังกันเสียงออฟฟิศ โดยแบ่งออกเป็น 3 เรื่องหลัก ๆ ด้วยกัน ดังต่อไปนี้
1. ในการติดตั้งผนังกันเสียงออฟฟิศ ต้องรื้อเฟอร์นิเจอร์ Build in ออกก่อน
ถือเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจก่อนเป็นอันดับแรก เพราะบ่อยครั้งที่หลาย ๆ คนจะเข้าใจว่า การติดตั้งผนังกันเสียง คือการนำเอาแผ่นวัสดุอะคูสติกติดทับไปบนผนังเดิมได้เลย จึงน่าจะเลือกติดในจุดที่ไม่มีการ Build In อย่างเดียวก็ได้ แต่ในความเป็นจริง แผ่นอะคูสติกที่ใช้ติดผนังไปได้เลยนั้น ไม่ใช่ “แผ่นกันเสียง” แต่เป็น “แผ่นซับเสียง” ที่เอาไว้สำหรับแก้ไขปัญหาเสียงก้องสะท้อน ซึ่งหากเข้าใจผิดแล้วติดไป ก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเสียงดังได้อย่างที่ต้องการ
ทั้งนี้ ในกระบวนการติดตั้งผนังกันเสียง จะต้องทำผนังเบาทับผนังเดิม เสริมด้วยแผ่นกันเสียงตรงกลางแล้วปิดผิวด้วยสมาร์ทบอร์ดหรือยิปซั่ม ทำให้กลายเป็นผนัง 2 ชั้น ที่หนาขึ้น และกันเสียงได้ดีขึ้น ดังนั้น หากมีเฟอร์นิเจอร์ Build In ติดผนังอยู่ จึงต้องรื้อถอนออกก่อนจึงจะสามารถติดตั้งระบบผนังกันเสียงได้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อทราบแล้วว่าเป็นการทำผนังเบาทับผนังเดิมที่ต้องรื้อเฟอร์นิเจอร์ติดผนังออกก่อน หลายคนก็อาจมีข้อกังวลตามมาว่า แล้วหลังติดตั้งผนังกันเสียงออฟฟิศเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังสามารถติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ติดผนังเข้าไปเหมือนเดิมได้หรือไม่ คำตอบขึ้นอยู่กับคุณภาพของระบบผนังกันเสียงที่เลือกใช้ว่า สามารถรองรับน้ำหนักการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ Built In ได้ดีเพียงใด ยกตัวอย่างเช่น ระบบผนังกันเสียง Smart Wall Privazy ของ SCG นั้น ติดตั้งแล้วสามารถ Built in เฟอร์นิเจอร์ได้ตามปกติ เพราะวัสดุมีความแข็งแรงสูง สามารถรองรับน้ำหนักเฟอร์นิเจอร์แขวนผนังได้เป็น 100 กิโลกรัม ต่อจุด
2. ไม่สามารถติดผนังกันเสียงบนผนังกระจกได้
อย่างที่ได้อธิบายไปแล้วว่า การติดตั้งระบบผนังกันเสียง คือการสร้างผนังเบาทับผนังเดิมอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งจะต้องมีการเจาะวางโครงคร่าว ดังนั้น หากผนังเดิมเป็นกระจก จึงไม่สามารถติดตั้งระบบผนังกันเสียงได้ ปัญหานี้เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ด้วยความเข้าใจผิดตั้งแต่แรกว่า ผนังกันเสียงคือการติดแผ่นอะคูสติกไปเลยตรง ๆ บนผนังเดิม จึงมองว่าติดกับกระจกก็ได้ ซึ่งห้องทำงานในออฟฟิศส่วนใหญ่ เป็นผนังกระจก โดยเฉพาะอย่างห้องประชุม ดังนั้น ถ้าต้องการจะทำผนังกันเสียงในห้องกระจก จึงต้องเข้าใจว่า จำเป็นต้องออกแบบใหม่ รื้อผนังกระจกออก แล้วก่อผนังใหม่เลย ซึ่งก็จะต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการมากขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับการแก้ไขที่ช่วยให้เกิดพื้นที่เงียบสงบในการทำงานได้โดยไม่จำเป็นต้องรื้อกระจกแล้วก่อผนังใหม่ คือการเลือกติดตั้ง “ห้องเก็บเสียงสำเร็จรูป” ซึ่งจะเป็นลักษณะเหมือนตู้ เป็นห้องทำงานที่สร้างขึ้นมาด้วยวัสดุอะคูสติก ที่มีความสามารถในการกันเสียงดังทะลุเข้าออก อย่างเช่น SCG Acoustic Pod ที่กันเสียงดังได้สูงสุดถึง 30 dBA มีขนาดให้เลือกทั้งไซซ์เล็ก กลาง และใหญ่ ทำให้สามารถเลือกพื้นที่ว่าง แล้วติดตั้งห้องเก็บเสียงสำเร็จรูปลงไป ก็จะกลายเป็นห้องทำงานที่ไร้ปัญหาเสียงรบกวนได้เลยทันที
3. ติดตั้งแค่ระบบผนังกันเสียงออฟฟิศอย่างเดียว อาจไม่พอ
แม้จะเสริมผนังกันเสียงให้กับผนังห้องออฟฟิศ ห้องประชุม ห้องทำงานแล้ว แม้ว่าระบบผนังกันเสียงที่เลือกมาจะมีคุณภาพมากแค่ไหน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ปัญหาเสียงดังทะลุเข้าออกห้องทำงานยังคงอยู่ได้ หากมีทางผ่านอื่น ๆ ที่เสียงทะลุเข้าออกได้ เช่น ประตู หน้าต่าง ฝ้าเพดาน ฯลฯ ดังนั้น ในการวางแผนแก้ไขปัญหาเสียงดังห้องทำงาน ห้องประชุม ออฟฟิศ สำนักงาน จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการสำรวจหน้างาน วิเคราะห์อย่างละเอียดรอบคอบถึงจุดที่เป็นทางผ่านของเสียงดังให้ครอบคลุม เพื่อให้วางแผนแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ครบถ้วน อันจะนำไปสู่การสร้างพื้นที่การทำงานที่เงียบสงบและปราศจากเสียงดังรบกวนได้จริง
การวางแผนแก้ไขปัญหาเสียงดังออฟฟิศ ด้วยการติดตั้งผนังกันเสียงออฟฟิศ ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะยิ่งปล่อยทิ้งไว้ก็ยิ่งส่งผลกระทบทำให้การทำงานมีปัญหาหนักมากขึ้น แต่แม้จะเร่งด่วนแค่ไหน ก็มีข้อควรระวังที่ต้องใส่ใจ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาเสียงดังได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้งบประมาณที่คุ้มค่ามากที่สุด ที่รู้ข้อจำกัดของการติดตั้งผนังกันเสียงออฟฟิศ จะทำให้ตัดสินใจได้ว่า ควรทำหรือไม่ มีงบประมาณเพียงพอไหม หรือหาวิธีการติดตั้งแบบใดที่ตอบโจทย์กับความต้องการของเราได้มากที่สุด ซึ่งพื้นที่แต่ละออฟฟิศก็แตกต่างกัน โครงสร้างผนัง วัสดุ ก็ต่างกัน จึงไม่สามารถเปรียบเทียบราคาในการติดตั้งเหมือนกันได้ จำเป็นต้องประเมินจากการสำรวจหน้างานจริงเท่านั้น
ผู้ประกอบการท่านใดที่ออฟฟิศกำลังมีปัญหาเสียงดังรบกวน ห้องประชุมไม่เก็บเสียง ห้องทำงานแต่ละแผนกเสียงดังตีกัน แล้วอยากแก้ไข สามารถปรึกษาสอบถามทีมงาน Acoustic Expert ได้ฟรี ผ่านช่องทางออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง ทีมงานมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาเสียงคอยให้คำแนะนำ นัดหมายสำรวจหน้างานจริง และออกแบบติดตั้งผนังกันเสียงออฟฟิศให้ได้ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วยผลิตภัณฑ์แผ่นกันเสียง SCG