ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือคอนโด ปัญหาเสียงดังรบกวนก็เป็นปัญหาหลักที่หลีกเลี่ยงได้ยากเหลือเกิน เพราะหากไม่พูดคุยกับเพื่อนบ้านให้ชัดเจนแล้ว ก็เป็นไปได้ยากที่จะทำให้ทุกคนระมัดระวังไม่ส่งเสียงดังรบกวนกัน อีกทั้งยังมีเสียงจากชุมชน เสียงจากถนนที่ทะลุเข้ามากวนในที่อยู่อาศัยได้อีก นั่นเองจึงทำให้ การเสริมผนังกันเสียงในห้องเพื่อให้กันเสียงดังทะลุเข้าออกได้ดีขึ้น จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่อย่างเราอาจทนได้กับปัญหาเสียงดังรบกวน เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมาย อีกทั้งไม่อยากลงทุนต่อเติมผนังกันเสียงให้วุ่นวายและเสียงบประมาณไปโดยใช่เหตุ แต่ถ้าเป็นเด็ก ๆ เด็กเล็ก วัยเรียน ที่อยู่ร่วมกับเราด้วยแล้ว การปล่อยให้พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในห้องที่มีเสียดังรบกวนนั้น อาจส่งผลเสียตามมาได้มากกว่าที่คิด โดยเสียงดังรบกวนสามารถส่งผลกระทบต่อเด็ก ๆ ได้ในหลาย ๆ ด้านดังต่อไปนี้
1.เสี่ยงกลายเป็นเด็กสมาธิสั้น
การที่ลูกอาศัยอยู่ในห้องที่ได้ยินเสียงรบกวนบ่อย ๆ จะทำให้เขาถูกเสียงดังเหล่านั้นรบกวนสมาธิ ทำให้ไม่สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งที่โฟกัสตรงหน้าได้ดีมากนัก ไม่ว่าจะเป็นการกินข้าว การเล่น การเรียนหนังสือที่บ้าน การทำการบ้าน การอ่านหนังสือ หรือว่าดูหนัง ฯลฯ ซึ่งเมื่อถูกเสียงดังรบกวนหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน หนที่สุดแล้วก็อาจทำให้เด็กกลายเป็นโรคสมาธิสั้น ที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อการเรียน การใช้ชีวิต และโตขึ้นมาอย่างเป็นคนที่ขาดความมั่นใจ หรืออาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ในอนาคต
2.เสี่ยงมีความบกพร่องทางการสื่อสาร
ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังรบกวน ทำให้เด็ก ๆ อาจสื่อสารกับพ่อแม่ พี่น้อง และครอบครัวในบ้านได้แบบไม่ราบรื่นมากนัก ซึ่งยิ่งถ้าเป็นเด็กเล็ก ๆ จะยิ่งทำให้ประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านเสียงของเขาบกพร่อง ได้ยินไม่ชัด ฟังผิด ไม่ได้ยินจนแปลความไม่ได้ สุดท้ายจึงกลายเป็นมีความบกพร่องทางการสื่อสาร ไม่กล้าพูด ไม่กล้าคุย เพราะกลัวที่จะสื่อสารผิดพลาด กลายเป็นปมด้อยที่อาจทำลายทั้งอนาคตของเขาได้
3.เสี่ยงทำให้เกิดความเครียดอย่างหนัก
เวลาที่เด็ก ๆ ในวัยเรียนต้องการอ่านหนังสือ แต่ไม่สามารถอ่านได้เพราะถูกเสียงดังรบกวน จะทำให้การเรียนรู้ของเขามีปัญหา ทำผลสอบได้ไม่ดี ก็จะเกิดเป็นความเครียด ซึ่งพออยากทำให้ดีขึ้น แต่สภาพแวดล้อมในบ้านก็ไม่เอื้ออำนวยให้เขาบรรลุความต้องการ ก็จะกลายเป็นความเครียดสะสม ที่จะส่งผลต่อร่างกาย ทำให้นอนไม่หลับ ป่วย หรือถึงขั้นลุกลามไปเป็นโรคทางจิตเวชได้เช่นกัน
แค่ติดผนังกันเสียง ก็ช่วยดูแลเด็ก ๆ ในบ้านได้ดีขึ้น
อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่า ปัญหาเสียงดังรบกวนนั้น ส่งผลกระทบต่อพัฒนาของเด็ก ๆ ในบ้านได้มากกว่าที่คิด ดังนั้น การติดตั้งผนังกันเสียงจึงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้ามเลย หากปรารถนาจะให้บ้านเป็นที่อยู่อาศัยที่ดีต่อสุขภาพกายและใจของเจ้าตัวเล็กจริง ๆ ซึ่งหนึ่งในระบบผนังกันเสียงที่ได้รับความนิยม และเหมาะติดตั้งได้ทั้งห้องในบ้านและคอนโดก็คือ ระบบผนังกันเสียง SCG Smart Wall Privazy
ซึ่งมีข้อดีคือ ติดตั้งง่าย กันเสียงดังได้ดีในระบบเดียวกับผนังโรงแรม 5 ดาว ทนไฟ ไม่ลามไฟ แข็งแกร่งรองรับการแขวนเฟอร์นิเจอร์ได้ถึง 100 กิโลกรัมต่อจุด ที่สำคัญคือ ไม่หนาเหมือนผนังก่ออิฐฉาบปูน จึงทำให้เมื่อเสริมติดตั้งไปแล้ว ไม่ทำให้ห้องแคบอึดอัด แต่ยังเหลือพื้นที่ใช้สอยได้มากเพียงพอต่อความต้องการ
ระบบผนังกันเสียง SCG Smart Wall Privazy ทั้งวัสดุรวมติดตั้งนั้น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ตารางเมตรละ 2,400 บาท นับว่าไม่ได้เป็นราคาที่แพงเกินไป หากแลกกับการให้ห้องที่กันเสียงดังได้ดี ปกป้องลูกน้อยจากเสียงดังรบกวน และทำให้ทุกคนในครอบครัวอยู่อาศัยในบ้านได้อย่างเงียบสงบและมีความสุข หรือถ้าเทียบกับการปล่อยให้ทุกคนในบ้านต้องป่วยกายป่วยใจเพียงเพราะประหยัดงบประมาณหลักพันต่อตารางเมตร ก็ถือว่าการลงทุนติดตั้งผนังกันเสียงนั้นคุ้มค่ามากกว่าค่าความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้จากปัญหาเสียงดังรบกวน
สำหรับใครที่อยู่บ้านอยู่คอนโด และเป็นครอบครัวที่มีลูกน้อย เด็กเล็ก วัยเรียน วัยกำลังซน แล้วอยากวางแผนติดผนังกันเสียง แก้ไขปัญหาเสียงดังรบกวนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับลูกที่รักแล้วล่ะก็ สามารถสอบถามปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผนังกันเสียงกับทีมงาน Acoustic Expert ได้ฟรี ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทีมงานมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงพร้อมให้คำแนะนำ นัดหมาย และสำรวจติดตั้งผนังกันเสียง SCG ให้ได้ทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด