อยู่บ้านอยู่คอนโดแล้วเจอปัญหาเสียงดังรบกวนจากภายนอก อาทิ เสียงเพื่อนบ้านข้างหน้องใกล้เคียง เสียงรถบนถนน เสียงไซต์งานก่อสร้าง เสียงดนตรีจากร้านอาหาร ฯลฯ ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ควรรีบแก้ไข เพราะปล่อยทิ้งนานวันไปก็มีแต่จะทำให้คุณภาพชีวิตย่ำแย่ลงไปเรื่อย ๆ
โดยปัจจุบันแนวทางในการแก้ไขปัญหาเสียงดังที่มีประสิทธิภาพที่สุดนั้นคือ การติดตั้งระบบผนังกันเสียง แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า “ผนังกันเสียงที่ไหนดี” หรือ “ผนังกันเสียงที่ไหนไม่ตอบโจทย์” สามารถมี Checklist เป็นแนวทางในการพิจารณาคุณภาพของผนังกันเสียง ก่อนตัดสินใจง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
1.ทำจากวัสดุอะไร ปลอดภัยหรือไม่
ในการทำผนังกันเสียงนั้น วิธีการดำเนินการจะต้องวางโครงคร่าวผนังเบาขึ้นมาแล้วแทรก “แผ่นกันเสียง” หรือ “วัสดุอะคูสติก” ที่มีคุณสมบัติในการกันเสียงเข้าไป ซึ่งหมายความว่าวัสดุนั้นจะติดอยู่กับผนังบ้านเราไปแบบถาวร ดังนั้น ในการเลือกวัสดุกันเสียงสำหรับทำระบบผนังกันเสียง จึงควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาตรวจสอบดูดด้วยว่าวัสดุนั้นทำมาจากอะไร มีโอกาสเสี่ยงที่จะปล่อยสารระเหยหรือสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเราหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะอยู่กับผนังกันเสียงไปได้อย่างปลอดภัยที่สุด
ทั้งนี้ หนึ่งในแผ่นกันเสียงที่ได้รับความนิยม ได้แก่ แผ่นกันเสียง SCG รุ่น Cylence Zoundblcok ที่ทำมาจากฉนวนใยแก้ว ซึ่งผลิตจากแก้วรีไซเคิล 100% และผ่านการตรวจสอบแล้วว่าไม่มีสารที่ก่อมะเร็งจากหน่วยงานของ WHO จึงมั่นใจได้ว่าเป็นวัสดุที่เป็นสิ่งต่อทั้งสุขภาพเราและสิ่งแวดล้อม
2.กันเสียงดังได้ดีแค่ไหน
นอกจากจะต้องเลือกวัสดุอะคูสติกที่ปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของทุกคนแล้ว วัสดุที่ใช้ในการผลิตแผ่นกันเสียงนั้น ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงคุณภาพในการกันเสียงดังด้วย เพราะวัสดุแต่ละชนิดมีความสามารถในการกันเสียงไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น แผ่นกันเสียง SCG รุ่น Cylence Zoundblock นั้น ถือเป็นหนึ่งในวัสดุอะคุสติกที่มีความสามารถในการกันเสียงดังทะลุเข้าออกสูงมาก เพราะฉนวนใยแก้วจะมีรูพรุนอากาศจำนวนมากคอยดักจับเสียงที่มากระทบไม่ให้ทะลุออกไปได้ง่าย
ซึ่งเมื่อร่วมกับระบบผนังกันเสียงแล้วก็จะยิ่งทำให้สามารถป้องกันเสียงดังได้เป็นอย่างดี เทียบกับการก่ออิฐฉาบปูน 2 ชั้นแล้ว การเสริมระบบผนังกันเสียง SCG จะสามารถกันเสียงดังได้ดีกว่าถึงเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว ซึ่งเวลาที่เราอยากทราบว่าผนังกันเสียงที่ไหนดี ที่สามารถกันเสียงดังได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น สามารถดูได้จากค่า STC ที่ตัวผลิตภัณฑ์และตัวระบบก็ได้ โดยยิ่งมีค่า STC สูงมากเท่าไร ก็จะยิ่งกันเสียงดังได้ดีมากเท่านั้น
3.ระบบผนังกันเสียงทำให้ผนังห้องหนาขึ้นมากเท่าไร
อย่างที่อธิบายไปแล้วว่าระบบผนังกันเสียงคือการทำผนังเบาทับผนังเดิมอีกชั้นหนึ่ง จึงเท่ากับว่าเมื่อติดตั้งเสร็จแล้วผนังห้องจะหนาขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น เจ้าของห้องทุกคนจึงจำเป็นต้องพิจารณาให้ดีว่า โอเคหรือไม่กับความหนาที่จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งระบบผนังกันเสียงแต่ละแบรนด์ก็จะทำให้ผนังห้องหนาขึ้นไม่เท่ากันนั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น ระบบผนังกันเสียง SCG นั้น จะทำให้ผนังหนาขึ้นประมาณ 7-10 เซ็นติเมตร ในขณะที่การก่ออิฐฉาบปูนทำผนัง 2 ชั้นนั้นจะทำให้ผนังห้องหนาขึ้นเกือบ 20 เซ็นติเมตร จึงทำให้การเสริมผนังกันเสียง SCG เป็นทางเลือกที่ดีกว่า แถมยังมีประสิทธิภาพในการกันเสียงดังได้ดีกว่ากผนังก่ออิฐฉาบปูน 2 ชั้นด้วย
4.ผนังกันเสียงที่เสริมแล้วแข็งแรงมากแค่ไหน
เรื่องความแข็งแรงของระบบผนังเบากันเสียงก็เป็นอีกหนึ่งเช็คลิสต์ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเราต้องไม่ลืมว่าผนังห้องของเราจำเป็นต้องมีการ Built In เฟอร์นิเจอร์เข้าไปด้วย ซึ่งถ้าระบบผนังเบากันเสียงที่เลือกใช้ไม่แข็งแรงพอที่จะสามารถแขวนเฟอร์นิเจอร์ หรือ Built In อะไรได้เลย ก็จะทำให้เราไม่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นของผนังได้เต็มรูปแบบ กลายเป็นเสียโอกาสนในการตกแต่งที่ทำให้ห้องสวยงามและทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ในห้องของเราสะดวงสบายได้อย่างที่ควรจะเป็น
ซื้อ “ผนังกันเสียงที่ไหนดี” คำถามนี้จะได้ดีที่สุดก็ต่อเมื่อเรารู้ว่าในการเลือกผนังกันเสียงนั้นต้องพิจารณาอะไรบ้าง ซึ่งจากเช็คลิสต์ที่กล่าวมาในเบื้องต้น ก็เพียงพอให้เราเห็นภาพแล้วว่าจะต้องตรวจสอบคุณภาพและปัจจัยแวดล้อมอะไรบ้างในการเลือกผนังกันเสียง ซึ่งลำดับต่อไปก็คือการศึกษาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของระบบผนังกันเสียงแต่ละที่ว่าผนังกันเสียงที่ไหนดีที่สุด ตอบโจทย์กับบ้านและความต้องการของเราที่สุด
อย่างไรก็ตาม อีก 2 ปัจจัยสำคัญที่มีส่วนกับการตัดสินใจก็คือเรื่องของราคาและช่างในการติดตั้ง ที่ต้องเปรียบเทียบให้ดีและให้ทีมติดตั้งที่เชี่ยวชาญที่สุด เพราะคงไม่ใช่เรื่องดีและคุ้มค่าแน่ ๆ ถ้าติดตั้งผนังกันเสียงไปแล้วมีปัญหาต้องแก้ไขภายหลังให้เสียเวลาและเสียงบประมาณเพิ่มเติม
สนใจสอบถามรายละเอียด ปรึกษาการติดตั้งผนังกันเสียงสำหรับที่อยู่อาศัย บ้าน คอนโด สำนักงาน โรงงาน ออฟฟิศ ได้ฟรี กับทีมงาน Acoustic Expert ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถนัดหมาย ลงสำรวจพื้นที่จริง พร้อมวางแผนนออกแบบติดตั้งแก้ไขปัญหาเสียงดังได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ