ปล่อยปัญหาเสียงดังโรงงานเรื้อรังเอาไว้ ก็มีแต่จะทำให้เกิดผลเสียต่อการดำเนินธุรกิจ เพราะถ้าชุมชนทนไม่ไหว ก็อาจรวมตัวกันเคลื่อนไหวเพื่อฟ้องร้องสั่งปิดโรงงานได้ ดังนั้น การรีบวางแผนแก้ไขปัญหาเสียงดังโรงงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญเร่งด่วนที่ผู้ประกอบการทุกคนควรถือเป็นภารกิจหลักจัดการให้เรียบร้อย โดยมีแนวทางแผนการเริ่มต้นในการจัดการง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
1.สำรวจค้นหาว่าเสียงดังเกิดจากอะไรบ้าง
กิจกรรมในโรงงานที่ทำให้เกิดเสียงดังนั้นมีได้จากหลายสาเหตุแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงานของโรงงาน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักมาจากเครื่องจักรในกระบวนการผลิต ตลอดจนขั้นตอนการทำงานบางอย่างของพนักงานในโรงงานที่อาจทำให้เกิดเสียงดังรบกวนต่อเนื่องได้
การสำรวจตรวจสอบกิจกรรมและพื้นที่ทุกจุดในโรงงานเพื่อพิจารณาว่าเสียงดังเกิดจากอะไรบ้างนั้น คือขั้นแรกสุดของการวางแผนแก้ไขปัญหาเสียงดังโรงงาน เพราะหากเราไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไรและตรงไหนบ้างของโรงงานแล้ว ก็จะไม่สามารถทำระบบกันเสียงได้ครบทุกจุด ซึ่งจะส่งผลให้ไม่สามารถป้องกันแก้ไขปัญหาเสียงดังโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
2.ตรวจวัดระดับเสียงดังที่เป็นปัญหา
เมื่อสำรวจพื้นที่จนทราบแล้วว่ามีกิจกรรมในโรงงานใดบ้าง และตำแหน่งไหนบ้างที่ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนออกไปยังชุมชนภายนอก ในลำดับถัดมาเราจะต้องวัดระดับความดังของเสียงดังเหล่านั้นว่าอยู่ที่กี่เดซิเบล เพื่อให้สามารถประเมินได้ว่า ระดับเสียงดังที่เป็นอยู่ปัจจุบันนั้นดังเกินระดับที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานจะอยู่ที่ไม่เกิน 85 เดซิเบล ซึ่งถ้าหากวัดแล้วเกิน ก็จะต้องดูว่าเกินไปมากเท่าไร เพื่อให้สามารถวางแผนในการแก้ไขให้ระดับเสียงดังนั้นเบาลงมาได้ตามที่ต้องการ
3.ตั้งเป้าหมายว่าต้องการลดเสียงดังได้มากแค่ไหน
การจะทำให้ระดับเสียงดังในโรงงานลดลงมาได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีการวางแผนที่รอบคอบและใช้วัสดุอะคูสติกในการแก้ไขปัญหาที่มีคุณภาพและจำนวนมากน้อยขึ้นอยู่กับความต้องการที่จะลดปัญหาเสียงดัง
ดังนั้น เมื่อตรวจวัดระดับเสียงดังในโรงงานแล้ว ลำดับต่อมาจึงต้องมีการกำหนดเป้าหมายว่าอยากให้เสียงดังเบาลงมากน้อยแค่ไหน โดยทั่วไปแล้วหากเสียงดังโรงงานไม่ได้เกินระดับที่กฎหมายกำหนด ก็อาจพิจารณาเลื่อนแผนการแก้ไขออกไปก่อนได้ เพราะแม้จะมีการร้องเรียนก็ถือว่ายังไม่เป็นปัญหารุนแรงเนื่องจากโรงงานยังควบคุมระดับเสียงดังได้ตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
แต่หากวัดระดับเสียงดังแล้วเปรากฎว่าเสียงดังเกินระดับที่กฎหมายกำหนด ก็ต้องมาตัดสินใจว่า จะแก้ไขให้ลดลงมาอยู่ที่ระดับพอดีเกณฑ์มาตรฐาน หรืออยากที่จะลดให้ได้มากกว่านั้น เพื่อให้ผลกระทบจากเสียงดังลดลงไปให้ได้มากที่สุด เพราะเราต้องไม่ลืมว่า แม้จะเป็นเสียงดังที่อยู่ในระดับมาตรฐาน แต่ถ้าเสียงยังดังอยู่ก็จะสร้างความรำคาญให้กับชุมชนได้อยู่ รวมถึงอาจจะเป็นอันตรายต่อพนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่โรงงานด้วย ซึ่งเป้าหมายการลดระดับเสียงดังนั้นยิ่งต้องการลดให้ได้มากเท่าไรก็ยิ่งต้องมีงบประมาณในการดำเนินการเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
4.เลือกวัสดุอะคูสติก วางแผนแก้ไขปัญหา
เมื่อทราบเป้าหมายแล้วว่าต้องการลดเสียงดังลงให้ได้มากเท่าไร ขั้นตอนต่อไปคือต้องเปรียบเทียบเฟ้นหาวัสดุอะคูสติกที่สามารถแก้ไขปัญหาเสียงดังได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะแผ่นกันเสียงในตลาดมีหลากหลายชนิดหลากเลายวัสดุ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีความสามารถในการกันเสียงไม่เหมือนกัน รวมถึงในการแก้ไขปัญหานั้นก็ต้องพิถีพิถันรอบคอบ ควรดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ
ทั้งนี้ วิธีการแก้ไขปัญหาเสียงดังโรงงานนั้น หลัก ๆ แบ่งได้ออกเป็น 2 แนวทางคือ การสร้างห้องครอบเครื่องจักร ด้วยวัสดุอะคูสติกเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงดังของเครื่องจักรทะลุออกมาภายนอกได้ หรือทะลุออกมาได้น้อยลง ส่วนอีกแนวทางหนึ่งคือการเสริมระบบผนังกันเสียงที่บริเวณผนัง ฝ้า ของโรงงาน เพื่อลดระดับเสียงดังจากภายในโรงงานให้ออกไปยังภายนอกได้น้อยที่สุด ซึ่งบางโรงงานก็อาจจะต้องทำทั้ง 2 แนวทางร่วมกันเพื่อให้สามารถป้องกันเสียงดังได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
5.ติดตั้งและประเมินผลการแก้ไขหลังติดตั้งระบบกันเสียง
ลำดับสุดท้ายของกระบวนการแก้ไขปัญหาเสียงดังโรงงาน คือการติดตั้งตามแผนการที่วางเอาไว้ ซึ่งคำแนะนำที่สำคัญที่สุดเลยคือ ควรได้รับการดำเนินการติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยตรง เพราะงานทั้งหมดจะไม่ได้เสร็จสิ้นแค่เมื่อติดตั้งเสร็จ เนื่องจากว่าจำเป็นจำต้องมีการวัดระดับความดังของเสียงก่อนด้วยว่า สามารถลดเสียงดังได้จริงตามเป้าหมายที่วางแผนไว้หรือไม่ ซึ่งถ้าติดตั้งแล้วผลปรากฎว่าเสียงดังยังไม่ได้ลดลงถึงระดับที่ต้องการ การใช้ช่างทั่วไปอาจไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้ ตรงกันข้ามกับหากใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางนั้น จะมีการการันตีแก้ไขเพิ่มเติมให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหากดำเนินการวางแผนโดยผู้เชี่ยวชาญโดยตรงตั้งแต่แรก ก็จะได้ผลลัพธ์ในการกันเสียงดังตามที่วางแผนไว้ ซึ่งจะทำให้ควบคุมงบประมาณและระยะเวลาในการดำเนินการได้ตามแผน ไม่บานปลายเสียงบประมาณเพิ่มเติมและเสียเวลาที่อาจทำให้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของโรงงานได้
การแก้ไขปัญหาเสียงดังโรงงานนั้น ต้องมีการวางแผนที่รัดกุมและรอบคอบอย่างมาก เพื่อให้ดำเนินการครั้งเดียวแล้วได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เสียงดังโรงงานลดลงได้จริง เพราะหากวางแผนไม่ดี เลือกใช้บริการช่างติดตั้งที่ไม่มีประสบการณ์โดยตรง ไม่เป็นมืออาชีพแล้ว อาจจะทำให้เสียเวลา เสียงบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งเราไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้เลยว่าจะเป็นเท่าไร เพราะการที่โรงงานต้องหยุดทำงานในบางส่วนบางจุดไปในระหว่างที่ทำระบบกันเสียงนั้นก็อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของโรงงานได้
สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่กำลังวางแผนแก้ไขควบคุมปัญหาเสียงดังโรงงาน ไม่ให้เป็นกรณีพิพาทกับชุมชน ไม่ให้ถูกฟ้องร้องเพราะทำผิดกฎหมาย ไม่ควบคุมเสียงดังให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดล่ะก็ สามารถขอคำปรึกษากับทีมงาน Acoustic Expert ได้ฟรี ผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ทีมงานมีวิศวกรผู้มีประสบการณ์ตรงคอยดูแล และพร้อมออกแบบติดตั้งทำห้องครอบเครื่องจักร ทำระบบผนังกันเสียงโรงงานให้ได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยวัสดุอะคูสติก SCG วัสดุอะคูสติกคุณภาพมาตฐานระดับโลก