ปัญหาห้องนอนไม่เก็บเสียง ถูกเสียงดังจากภายนอกทะลุเข้ามารบกวนในห้องนั้น ถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะ ทำให้นอนหลับไม่สนิท ก่อให้เกิดความเครียดและกลายเป็นปัญหาสุขภาพได้ ทั้งนี้ หลาย ๆ คนเลือกที่จะทำห้องเก็บเสียงด้วยการวางแผนก่ออิฐ 2 ชั้น ให้ผนังเดิมกลายเป็นผนังกันเสียง ซึ่งจริงอยู่ที่เมื่อผนังหนาขึ้นจะกันเสียงได้ดีขึ้น แต่การก่ออิฐ 2 ชั้นเพื่อทำผนังกันเสียงนั้น มีข้อเสียที่ควรระวังและคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ ดังต่อไปนี้
1.เสี่ยงทำให้ห้องแคบลงอย่างมาก
การก่ออิฐ 2 ชั้นเพื่อเสริมให้ผนังเดิมกลายเป็นผนังกันเสียง ให้สามารถกันเสียงดังทะลุเข้าออกได้ดีขึ้นนั้น เป็นแนวทางที่จะทำให้ผนังห้องเดิมหนาขึ้น โดยจะหนาขึ้นประมาณ 20 เซนติเมตร ซึ่งลองจินตนาการดูว่า ถ้าห้องของเรามีปัญหาเสียงดังทะลุเข้ามาจากทุกทิศทาง แล้วต้องก่อผนังอิฐ 2 ชั้นรอบด้าน ก็จะเหมือนห้องถูกบีบให้แคบลงจากทุกด้าน ทำให้เกิดเป็นความรู้สึกอึดอัด ไม่ปลอดโปร่งเหมือนก่อน กลายเป็นต้องสูญเสียพื้นที่ใช้สอยไปโดยไม่จำเป็น
เพราะในความเป็นจริงแล้วมีวิธีการเสริมผนังกันเสียงที่กินพื้นที่น้อยกว่า เช่น การใช้ระบบผนังเบากันเสียง SCG Smart Wall Privazy ที่หลังจากเสริมแล้วผนังจะหนาขึ้นกว่าเดิมเพียงไม่ถึง 10 เซนติเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าบางกว่าการก่ออิฐ 2 ชั้นถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
2.ใช้ระยะเวลาติดตั้งนานกินงบประมาณมาก
การก่ออิฐ 2 ชั้นเพื่อทำผนังเดิมให้กันเสียงนั้น จะเป็นการติดตั้งในระบบแบบเปียก กล่าวคือ เป็นการก่ออิฐฉาบปูน ที่ต้องเก็บรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน ต้องรอให้ปูนแห้งแล้วเก็บงานให้เรียบร้อย ซึ่งยิ่งพื้นที่ผนังห้องใหญ่มากเท่าไร ก็จะต้องกินระยะเวลาในการติดตั้งยาวนาน ทำให้งบประมาณในการจ้างช่างติดตั้งก็ขยับสูงตามไปด้วย ทั้งนี้ หากช่างไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ ก็อาจต้องมาแก้ไขภายหลังที่ทำให้ต้องเสียเวลา เสียความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นไปอีก ทั้งนี้ ระบบผนังเบากันเสียง SCG Smart Wall Privazy ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์กว่า เพราะติดตั้งได้รวดเร็วกว่าระบบก่ออิฐฉาบปูน 3-5 เท่า ทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าแรงในการติดตั้งไปได้พร้อมกันในคราวเดียว
3.อาจไม่ได้ช่วยกันเสียงดังได้มากอย่างที่คาดหวัง
ในการแก้ไขปัญหาเสียงดังด้วยการเสริมระบบผนังกันเสียงนั้น ตัวชี้วัดสำคัญที่ควรจะต้องทราบก่อนตัดสินใจว่าจะแก้ไขด้วยวิธีแบบใดหรือวัสดุใดดี ก็คือ “ค่าประสิทธิภาพการป้องกันเสียง” หรือ ค่า STC: Sound Transmission Class ซึ่งยิ่งระบบผนังกันเสียงมีค่า STC สูงเท่าไร ก็ยิ่งทำให้สามารถกันเสียงดังได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น
โดยผนังก่ออิฐฉาบปูนโดยทั่วไปชั้นเดียว จะมีค่า STC อยู่ที่ประมาณ 37-38 ซึ่งเมื่อก่อผนังอิฐเพิ่มขึ้นมาเป็น 2 ชั้น ค่า STC ก็จะขยับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 50 ซึ่งถ้าเสียงดังที่เป็นปัญหานั้นมีระดับดังค่อนข้างมาก ก็อาจจะยังคงได้ยินเสียงรบกวนอยู่ ในขณะที่หากเลือกใช้เป็นผนังเบากันเสียง SCG Smart Wall Privazy จะสามารถกันเสียงดังได้ดีมากกว่า เพราะมีค่า STC เริ่มต้นอยู่ที่ 53 ซึ่งหากต้องการให้กันเสียงดังได้เพิ่มมากขึ้น ก็สามารถเลือกรุ่นวัสดุอะคูสติกที่กันเสียงดังได้ดีขึ้นได้ โดยภาพรวมแล้ว ระบบผนังเบากันเสียง SCG Smart Wall Privazy สามารถกันเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ด้วยระดับค่า STC ที่ 53-66
หากเปรียบเทียบระหว่างการก่ออิฐ 2 ชั้น กับ การใช้ระบบผนังเบากันเสียง SCG Smart Wall Privazy แล้ว การทำห้องเก็บเสียงด้วยระบบผนังเบากันเสียงนั้นถือว่าตอบโจทย์มากกว่า ทั้งในเรื่องการสูญเสียพื้นที่ห้องน้อยกว่า ใช้ระยะเวลาและงบประมาณในการติดตั้งน้อยกว่า และที่สำคัญคือ มีความสามารถในการกันเสียงดังทะลุเข้าออกได้ดีมากกว่า ทำให้ได้ผลลัพธ์ห้องเก็บเสียงคืนความสงบที่อยากได้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับใครก็ตามที่มีปัญหาห้องนอนถูกเสียงดังรบกวน ไม่ว่าจะเป็นห้องคอนโด หรือบ้านพักอาศัย แล้วมีความต้องการวางแผนแก้ไขปัญหาเสียงดังอยู่ล่ะก็ สามารถติดต่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมกับทีมงาน Acoustic Expert ได้ฟรีผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง เรามีทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาเสียงค่อยดูแล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าปัญหาเสียงที่รบกวนชีวิตของทุกคนจะได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง