“ปัญหาเสียงดัง” จากภายนอกเข้ารบกวนภายในห้องที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโด ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่บั่นทอนความสุขและคุณภาพชีวิต แต่ปัจจุบันก็สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการติดตั้ง “แผ่นกันเสียง” เสริมวัสดุอะคูสติกเข้าไปยังผนังเดิม กลายเป็นทำให้ผนังเดิมมีระบบผนังกันเสียงใหม่ที่ป้องกันเสียงดังเข้าออกได้ดีมากขึ้น คืนความสงบสุขในการอยู่อาศัยให้กลับคืนมาได้
แต่อย่างไรก็ตาม หลายคนก็ยังมีข้อสงสัย ลังเล ไม่มั่นใจอยู่ว่า ถ้าติดแผ่นกันเสียงไปแล้วจะช่วยแก้ไขปัญหาได้จริงหรือเปล่า? หรือว่าได้ผลดีแค่ไหน ซึ่งเพื่อให้เกิดความเข้าใจอันเอื้อประโยชน์ได้ง่ายขึ้นต่อการตัดสินใจลงทุนติดตั้งแผ่นกันเสียง 3 ปัจจัยต่อไปนี้คือสิ่งที่ต้องพิจารณาให้ดี เพราะมีผลโดยตรงต่อคุณภาพของการกันเสียงว่าจะกันเสียงดังได้ดีมากน้อยแค่ไหน หลังจากติดตั้งแผ่นกันเสียงไปแล้ว
1.คุณภาพของแผ่นกันเสียง
แผ่นกันเสียง หรือ วัสดุอะคูสติกที่มีคุณสมบัติในการป้องกันเสียงดังทะลุเข้าออก ถือเป็นพระเอกของการแก้ไขปัญหาเสียง ซึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยต่อคุณภาพของแผ่นกันเสียงว่าจะกันเสียงดังได้ดีมากน้อยแค่ไหนนั้นก็คือ วัสดุที่นำมาใช้เพราะวัสดุแต่ละชนิดก็มีความสามารถในการกันเสียงต่างกัน
รวมถึงความหนาของตัวแผ่นกันเสียงด้วย โดยหากตัววัสดุอะคูสติกมีความบางเกินไป ไม่มีคุณภาพ แม้จะติดตั้งไปแล้วก็จะทำให้กันเสียงดังได้ไม่ดีเท่าที่ควร ยกตัวอย่างแผ่นกันเสียงที่มีคุณภาพ ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ก็เช่น แผ่นกันเสียง SCG รุ่น Cylence Zoundblock ซึ่งทำมาจากฉนวนใยแก้วที่มีความสามารถในการกันเสียงทะลุเข้าออกได้สูง เพราะมีโพรงอากาศสำหรับกักเก็บเสียงจำนวนมาก
2.โครงสร้างผนังเดิม
แม้จะใช้แผ่นกันเสียงคุณภาพดี แต่ถ้าโครงสร้างผนังเดิมนั้นไม่มีความสามารถในการกันเสียงได้ดีเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว การติดตั้งผนังกันเสียงเข้าไปเพิ่ม ก็อาจจะช่วยให้เสียงดังเบาลงได้ไม่ดีพอเท่าที่ใจต้องการ ให้ลองสมมติดูว่า ปกติผนังเดิมสมมติกันเสียงได้ 10% แผ่นกันเสียงที่เสริมเข้าไปกันเสียงได้ 50% รวมแล้วเมื่อติดตั้งระบบผนังกันเสียงเสร็จก็จะกันได้ 60% ซึ่งก็สามารถกันได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็อาจจะยังคงมีระดับเสียงที่ดังรบกวนใจเราได้มากอยู่
ถ้ากลับกันเป็นระบบผนังเดิมนั้นกันเสียงได้ 30% แล้วเสริมแผ่นกันเสียงเข้าไปให้กันเสียงเพิ่มได้ 50% รวมเป็น 80% เสียงดังที่เคยรบกวนการใช้ชีวิตก็จะเบาลงอย่างรู้สึกได้ชัดเจนเลยทีเดียว ดังนั้น ในการติดตั้งแผ่นกันเสียงให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจจริง ๆ จึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่จะมาตรวจสอบระบบโครงสร้างผนังเดิมด้วยว่ากันเสียงได้ดีแค่ไหน เพื่อจะได้วางแผนได้อย่างเหมาะสมว่า จะเสริมแผ่นกันเสียงเข้าไปเพิ่มอย่างไร ให้สามารถทำงานร่วมกันกับโครงสร้างผนังเดิมแล้วลดระดับเสียงดังรบกวนให้ได้มากที่สุด
3.แหล่งกำเนิดเสียงตั้งต้น
ถือเป็นอีกปัจจัยที่หลายคนมองข้ามไป ให้ลองคิดตามดูว่า ถ้าแต่เดิมเสียงที่ดังรบกวนเราอยู่คือเสียงปาร์ตี้จากเพื่อนบ้านข้างห้อง ในการแก้ไขปัญหาเสียงดังนั้น เราติดแผ่นกันเสียงคุณภาพดีระดับหนึ่งด้วยผู้เชี่ยวชาญก็สามารถที่จะลดระดับเสียงปาร์ตี้นั้นให้ดังรบกวนน้อยลงได้
แต่ถ้าในเวลาต่อมา มีตลาดกลางคืนมาเปิดใกล้ที่อยู่อาศัย มีก่อสร้างมาสร้างเสียงดังรบกวนใจ ซึ่งแน่นอนว่าจะดังกว่าเสียงปาร์ตี้เพื่อนบ้านหลายเท่า ผนังกันเสียงที่เสริมแผ่นกันเสียงไปแล้ว ก็อาจจะไม่ได้สามารถสร้างความพอใจให้ได้มากนัก เพราะไม่ได้วางแผนมาเพื่อแก้ไขปัญหาเสียงก่อสร้างและเสียงตลาดนัดกลางคืน
ดังนั้น ในการวางแผนแก้ไขปัญหาเสียงดัง จึงต้องมองภาพรวมของเสียงดังที่อยากแก้ไขด้วยว่า ต้องการแก้ไปที่ความดังระดับใด เพราะมีผลโดยตรงต่อวัสดุอะคูสติกและขั้นตอนการติดแผ่นกันเสียงที่ใช้ ยกตัวอย่างบริการเสริมระบบผนังกันเสียงของ Acoustic Expert ก็มี 2 แพ็คเกจให้เลือก คือแบบ Standard และ แบบ Premium ซึ่งความแตกต่างก็ความ แบบพรีเมียมนั้นจะกันเสียงดังมาก ๆ ได้ดีกว่านั่นเอง
จากปัจจัยดังกล่าวที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงดังของการติดแผ่นกันเสียงนั้น ทำให้เราเห็นว่าควรอย่างยิ่งที่จะได้รับคำแนะนำ สำรวจพื้นที่ และวางแผนออกแบบติดตั้งเสริมระบบผนังกันเสียงด้วยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์โดยตรง เพราะหากใช้ช่างทั่วไปแล้ว ก็อาจทำให้เราไม่ได้ผลลัพธ์ในการแก้ไขปัญหาเสียงดังอย่างที่เราคาดหวังเอาไว้ ซึ่งก็จะไม่ใช่แค่เสียใจเท่านั้น แต่ยังต้องเสียเวลา เสียงบประมาณเพิ่มเติมในการแก้ไขให้ดีขึ้นอีกในภายหลังด้วย
สำหรับใครก็ตามที่วันนี้กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาเสียงดังรบกวนที่อยู่อาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือจะเป็นออฟฟิศสำนักงาน โรงงานก็ตามที่มีปัญหาเสียงดัง ก้อง สะท้อน สามารถติต่อสอบถาม ขอคำปรึกษาทีมงาน Acoustic Expert ได้ฟรีผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ทีมงานพร้อมให้บริการแบบครบวงจรลงพื้นที่สำรวจหน้างานจริงได้ทั่วทุกจังหวัดในประเทศ