ปัญหาเสียงดังกวนใจไม่ว่าจะอยู่ในบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ หรือว่าคอนโด ถือเป็นสิ่งที่รบกวนความสุขในการอยู่อาศัยอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันการติด “ผนังกันเสียง” ถือได้ว่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาเสียงดังได้มากที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงเช่นกันที่ติดตั้งผนังกันเสียงแล้ว แต่ยังไม่สามารถได้ผลลัพธ์ในการกันเสียงที่ต้องการ โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความล้มเหลวนั้น ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจติดตั้งแผ่นกันเสียง ได้แก่
1.ผนังกันเสียงมีคุณภาพแค่ไหน
ถือเป็นปัจจัยแรกสุดที่ทำให้ผลลัพธ์ของการป้องกันเสียงดังมีความแตกต่าง โดยเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ผนังกันเสียงนั้น คือการเสริมวัสดุอะคูสติกเข้าไปที่ผนังเดิม ทำให้ผนังมีความหนามากขึ้น มีความสามารถในการกันเสียงมากขึ้น
ดังนั้น ตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ผนังกันเสียงได้มากน้อยแค่ไหน ก็อยู่ที่วัสดุอะคูสติกที่เลือกนำมาใช้เสริมเข้าไปกับผนัง ว่ามีความสามารถในการกันเสียงเพียงใด ซึ่งโดยปกติแล้ว ความสามารถในการกันเสียงของแผ่นกันเสียงหรือวัสดุอะคูสติกจะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุ
ยกตัวอย่างเช่น วัสดุอะคูสติก SCG แผ่นกันเสียง Cylence Zoundblock ที่ทำมาจากฉนวนใยแก้ว ที่มีรูพรุนจำนวนมาก จึงสามารถกักเก็บเสียงไม่ให้ทะลุผ่านเข้าออกได้มาก จึงมีประสิทธิภาพในการกันเสียงสูง และนอกจากนั้น ต่อให้เป็นฉนวนใยแก้วเหมือนกัน แต่ถ้าความหนาของฉนวนต่างกัน ความสามารถในการกันเสียงก็จะแตกต่างกันไปด้วย
2.ใช้วัสดุที่กันเสียงดังได้จริงหรือไม่
ประเด็นนี้มักเกิดขึ้นได้บ่อยมาก ๆ เพราะผู้คนมักจะสับสนระหว่าง “แผ่นกันเสียง” กับ “แผ่นซับเสียง” ถ้ามองกันในความหมายตามตัวอักษร อาจรู้สึกว่าเหมือนกัน คือกันเสียงก็หมายถึง กันไม่ให้เสียงดังทะลุเข้าออก ส่วนซับเสียงก็คือซับให้เสียงหายไป ก็เลยช่วยกันเสียงไม่ให้ทะลุเข้าออกได้
แต่ในความเป็นจริง ผนังกันเสียง กับ ผนังซับเสียง นั้น เป็นคนละวัสดุ ที่มีคุณสมบัติในการแก้ไขปัญหาเสียงต่างกัน โดยผนังกันเสียงจะช่วยแก้ไขปัญหาเสียงดัง ส่วนผนังซับเสียงจะช่วยแก้ไขปัญหาเสียงก้องเสียงสะท้อน ดังนั้น หากเราต้องการแก้ไขปัญหาเสียงดัง แต่ดันไปเลือกใช้แผ่นซับเสียงมาทำผนังซับเสียง ก็จะทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเสียงดังได้ตามเป้าหมายที่ตั้งใจ
3.แก้ไขปัญหาเสียงดังครบทุกจุดหรือไม่
ผนังห้องคือพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดที่หากโครงสร้างผนังเดิมบางเกินไป ก็จะทำให้กันเสียงดังได้น้อย แต่อย่างไรก็ตามเสียงดังจากภายนอกที่ทะลุเข้ามารบกวนภายในที่อยู่อาศัยนั้น อาจไม่ได้ผ่านเข้ามาทางผนังอย่างเดียวเสมอไป แต่อาจทะลุผ่านมาได้ทางฝ้าเพดาน หลังคา หน้าต่าง ประตู รูปลั๊กไฟ ฯลฯ ได้ด้วย
ดังนั้น ต่อให้เราเสริมผนังกันเสียงไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็อาจเป็นไปได้ว่า ปัญหาเสียงดังยังคงมีอยู่ อาจลดลงแต่ยังไม่ถึงขั้นที่น่าพอใจ ก็เป็นเพราะเราจำเป็นต้องไปแก้ไขปัญหาที่บริเวณทางผ่านเสียงดังในจุดอื่น ๆ ด้วยนั่นเอง
4.ช่างติดตั้งผนังกันเสียงเชี่ยวชาญแค่ไหน
หลายคนคิดว่าผนังกันเสียงติดตั้งเองได้ คำตอบคือ จริง ๆ แล้วควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ติดตั้งมากกว่า เพราะไม่ได้ง่ายพอที่ใครจะทำเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากต้องมีการวางโครงคร่าวผนังเบาขึ้นมาแล้วแทรกแผ่นกันเสียงเข้าไปก่อนจะปิดทับผนังเดิม ซึ่งในกระบวนการนั้น หากทำพลาด ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นกับตัวแผ่นกันเสียงที่แทรกไปล่ะก็ โอกาสที่คุณภาพในการกันเสียงจะลดน้อยลงก็มีมาก
รวมถึงตั้งแต่ตอนก่อนติดตั้ง ก็ควรมีการวางแผนออกแบบโดยละเอียดว่าแต่ละห้อง แต่ละสถานที่นั้น จำเป็นต้องติดตั้งตรงไหนอย่างไรบ้าง จึงจะกันเสียงได้ผล ดังนั้น จึงควรใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะ จะได้ไม่เสี่ยงเกิดปัญหาให้ยุ่งยากเสียเวลา เสียงบประมาณเพิ่มเติมตามมาภายหลัง
การลงทุนแก้ไขปัญหาเสียงดังด้วยการติดตั้งแผ่นกันเสียงเพื่อเสริมระบบผนังกันเสียงให้กับผนังเดิมนั้น ถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่า และควรที่จะแก้ไขให้เรียบร้อย เพราะยิ่งปล่อยให้ปัญหาเสียงดังสะสมไปเรื่อย ๆ ความเครียดในการอยู่อาศัยก็จะเพิ่มขึ้น คุณภาพชีวิต สุขภาพร่างกาย และความสุขในการอยู่อาศัยจะทรุดถอยไปเรื่อย ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขปัญหาเสียงดังด้วยการติดตั้งทำระบบผนังกันเสียง ก็ควรอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เราได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตามเป้าหมายที่ทำให้เรามีความสุขกับการอยู่อาศัยได้จริง ๆ
สำหรับใครก็ตามที่กำลังประสบปัญหาเพื่อนบ้านข้างห้องเสียงดัง สภาพแวดล้อมรอบที่อยู่อาศัยมีเสียงดังรบกวนและอยากที่จะคืนความสงบให้กับชีวิต ด้วยการติดตั้งระบบผนังกันเสียง สามารถขอคำแนะนำปรึกษาทีมงาน Acoustic Expert ได้ฟรีผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ทีมงานสามารถให้บริการได้แบบครบวงจร ตั้งแต่ปรึกษา นัดหมายดูสถานที่ ออกแบบแก้ไขปัญหา และติดตั้งพร้อมบริการหลังการขาย โดยลงพื้นที่ปฏิบัติงานได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ