การติด “แผ่นกันเสียง” คือวิธีการการแก้ไขปัญหาเสียงดังที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน สามารถช่วยให้บ้าน หรือห้องคอนโดที่มีปัญหาเสียงดังรบกวนทะลุเข้าออก กลับมาสงบได้มากขึ้นอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นผลดีต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ทำให้ชีวิตการอยู่อาศัยมีความสุขและมีคุณภาพมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการจะติด แผ่นกันเสียง แล้วได้ผลลัพธ์ที่ดี มีประสิทธิภาพ ก็มีเรื่องสำคัญต้องรู้ก่อนหลัก ๆ 4 ข้อ ดังต่อไปนี้
1.แผ่นกันเสียง ไม่ใช่แผ่นซับเสียง
“แผ่นกันเสียง” คือวัสดุอะคูสติกที่มีคุณสมบัติในการแก้ไขปัญหาเสียงดัง ต่างจาก “แผ่นซับเสียง” ที่เป็นวัสดุอะคูสติกที่มีไว้ใช้สำหรับแก้ปัญหาเสียงก้องเสียงสะท้อน เท่ากับว่า ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์เป็นคนละชนิดกัน แก้ไขปัญหาต่างกัน เหตุผลที่ต้องทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ดีก่อน เพราะหลายคนมักเข้าใจผิดว่า แผ่นกันเสียงก็คือแผ่นซับเสียง แล้วใช้แก้ปัญหาเสียงดังได้เหมือนกัน
ซึ่งแผ่นซับเสียงติดตั้งง่ายกว่าและมีลักษณะเป็นผนังตกแต่งให้ความสวยงาม จึงอาจเลือกแผ่นซับเสียงมาติดหวังแก้ไขปัญหาเสียงดังไปด้วยพร้อมตกแต่งผนังห้องให้สวยงามไปด้วย ซึ่งถือว่าเลือกใช้วัสดุอะคูสติกผิดประเภท จะทำให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายแก้ไขปัญหาเสียงดังได้อย่างที่ตั้งใจ
2.ติดแผ่นกันเสียงแล้ว Built In เฟอร์นิเจอร์ได้ปกติ
การติดตั้งแผ่นกันเสียงนั้น ก่อนติดตั้งจะต้องเอา Built In เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดออกก่อน วอลเปเปอร์ที่ติดไว้แล้วก็ต้องรื้อถอนออกเช่นกัน เพื่อให้สามารถเสริมแผ่นกันเสียงทำระบบผนังใหม่อีกชั้นได้อย่างสะดวก
แต่ทั้งนี้ เมื่อเสริมแผ่นกันเสียงเรียบร้อยแล้ว ก็ยังสามารถ Built In เฟอร์นิเจอร์กลับไปใหม่ได้เหมือนเดิม โดยที่ไม่ทำให้ความสามารถในการกันเสียงลดลงแต่อย่างใด ดังนั้น สำหรับใครที่กังวลว่าเสริมระบบผนังกันเสียงแล้วจะไม่สามารถติดตั้งเฟอร์นิเจอร์กับผนังได้ ก็หมดกังวลได้เลย
3.ผนังจะหนาขึ้นกว่าเดิมเมื่อติดแผ่นกันเสียงเสร็จสิ้น
การติดแผ่นกันเสียงเพื่อแก้ไขปัญหาเสียงดังนั้น คือการทำโครงคร่าวผนังเบาขึ้นมาอีกชั้นหนึ่งแล้วแทรกแผ่นกันเสียงเข้าไปตรงกลางก่อนปิดผิวผนังให้เรียบสนิทตามเดิม หรือง่าย ๆ คือเป็นการเบิ้ลผนังขึ้นอีกชั้นด้วยวัสดุอะคูสติก ดังนั้น หลังจากติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผนังห้องเดิมของเราจะหนาขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะหนาขึ้นเท่าไรนั้นก็อยู่ที่รูปแบบของการติดตั้งผนังกันเสียงว่าใช้วัสดุอะไรบ้างในการดำเนินการ
โดยหากเป็นการติดตั้งระบบผนังกันเสียง SCG ผนังจะหนาขึ้นประมาณ 7-9 เซ็นติเมตร ดังนั้น ก่อนติดตั้งจึงต้องถามตัวเองให้มั่นใจก่อนว่า ยอมรับได้ใช่หรือไม่กับการที่ผนังจะหนาขึ้นกว่าเดิม ซึ่งอาจทำให้เรารู้สึกว่าห้องแคบลงได้
4.แผ่นกันเสียงกันเสียงเคาะเสียงกระแทกไม่ได้
ข้อจำกัดสำคัญที่จำเป็นต้องรู้ก่อนติดตั้งแผ่นกันเสียง คือ เสียงที่เกิดจากการเคาะ การกระแทก การทุบ เช่น เสียงเคาะผนัง เสียงปิดประตูกระแทกแรง ๆ เสียงเดินกระแทกส้นเท้า ฯลฯ เสียงเหล่านี้จะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการติดตั้งแผ่นกันเสียง จริงอยู่ที่เสียงอาจเบาลงกว่าเดิม แต่ปัญหาเสียงกระแทกก็ยังคงอยู่ เพราะเป็นเสียงที่เกิดจากแรงสั่นสะเทือน
ทางเดียวที่จะแก้ไขได้ คือต้องหยุดการเคาะ การกระแทก การสั่น ที่ทำให้เกิดเสียงให้ได้ แต่สำหรับเสียงดังอื่น ๆ เช่น เสียงดังจากทีวี เพลง เสียงทะเลาะกัน เสียงถนน เสียงประกาศตามสายจากแหล่งชุมชน ฯลฯ เสียงเหล่านี้เบาลงได้เมื่อติดตั้งแผ่นกันเสียงที่ผนังกันเสียง
การติดตั้งแผ่นกันเสียงนั้น แม้จะมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสูงก็จริง แต่ก็ต้องเกิดจากความเข้าใจที่ถูกต้องด้วย เพราะหากไม่ได้รู้จักแผ่นกันเสียงอย่างดี ไม่มีความเข้าใจที่ดีพอ ก็อาจทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ที่พอใจอย่างที่คาดหวัง
นอกจากนั้นแล้ว ในกระบวนการติดตั้งแผ่นกันเสียง ก็ยังจำเป็นต้องอาศัยการวางแผนออกแบบติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยตรง เนื่องจากบางห้อง บางบ้าน จะมีทางอื่น ๆ นอกจากผนังที่เสียงทะลุผ่านเข้าออกได้อีก อาทิ หน้าต่าง ประตู ฝ้าเพดาน ฯลฯ ซึ่งทำให้แม้จะติดตั้งแผ่นกันเสียงไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมแก้ไขปัญหาเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับใครก็ตามที่กำลังถูกปัญหาเสียงดังรุมเร้าอยู่ และต้องการแก้ไขปัญหาให้หมดไป สามารถขอคำปรึกษาผ่านทีมงาน Acoustic Expert ได้ฟรีผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยทีมงานมีประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงดังทั้งบ้าน คอนโด ออฟฟิศ โรงงานมากกว่า 10 ปี และใช้ผลิตภัณฑ์ แผ่นกันเสียง SCG เป็นตัวช่วยแก้ปัญหา จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเสียงดังให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน และคุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ ซึ่งไม่ว่าบ้านของลูกค้าจะอยู่ที่ไหน ทีมงาน Acoustic Expert ก็สามารถเดินทางไปแก้ไขให้ได้ทุกที่ทั่วประเทศ