ปัญหาเสียงดัง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด ออฟฟิศ หรือโรงงาน ถือเป็นปัญหาที่ดูเหมือนจะเล็ก แต่จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะยิ่งเจอเสียงดังรบกวนมากเท่าไร ประสิทธิภาพในการอยู่อาศัยและการทำงานจะลดลงทันทีในทุก ๆ สถานที่ อีกทั้งเมื่อร่างกายต้องทนกับเสียงดังนาน ๆ สุขภาพก็จะย่ำแย่ลงทั้งกายและใจ รวมถึงถ้าเป็นโรงงานนั้น ก็มีกฎหมายบังคับไว้ด้วยว่าห้ามเสียงดังเกินมาตรฐาน ไม่งั้นอาจถูกสั่งปิดโรงงานได้
ดังนั้น การแก้ไขปัญหาด้วยการทำ “ห้องเก็บเสียง” เปลี่ยนพื้นที่เดิมที่เสียงดัง ให้กลายเป็นพื้นที่สงบเงียบกันเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แต่อย่างไรก็ตาม ในการจะทำ ห้องเก็บเสียง นั้น ทางที่ดีที่สุดควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยตรง ไม่ควรทำด้วยตัวเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1.ต้องมีการวัดระดับเสียงดัง เพื่อคำนวณปริมาณแผ่นกันเสียงที่ต้องใช้
ค่าความดังของเสียงนั้น มีหลายระดับ ลำพังการวัดด้วยการฟังด้วยหูของเราอย่างเดียวนั้น ก็อาจไม่สามารถทำให้หาข้อสรุปได้ว่าจะต้องแก้ไขปัญหาอย่างไร ใช้แผ่นกันเสียง หรือ วัสดุอะคูสติกมากน้อยแค่ไหน จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง ๆ
ยิ่งถ้าเป็นโรงงาน เป็นออฟฟิศสำนักงานด้วยแล้ว ยิ่งจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบพื้นที่ วัดระดับความดังเสียงจากผู้เชี่ยวชาญ เพือให้สามารถ “ลดเสียงดัง” ลงได้จนอยู่ในเกณฑ์มากตรฐาน ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพพนักงาน รวมถึงทำให้เสียงดังลดลงอยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดได้จริง ส่วนการทำห้องเก็บเสียงในบ้าน หรือห้องคอนโดนั้น ก็ยังจำเป็นต้องคำนวณปริมาณแผ่นกันเสียงให้เหมาะสม ไม่เช่นนั้น ก็อาจทำให้เสียงดังเบาลงไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้
2.ระบบผนังกันเสียงต้องมีการปิดผิวให้เรียบร้อย
วัสดุสำคัญของการทำระบบผนังกันเสียง คือ แผ่นกันเสียง ซึ่งเป็นวัสดุอะคูสติกที่มีคุณสมบัติในการป้องกันเสียงดังทะลุเข้าออกสูงกว่าวัสดุปกติ ซึ่งหากเป็นการเสริมระบบผนังกันเสียงในบ้านหรือห้องคอนโด หรือผนังออฟฟิศนั้น จะต้องมีการวางโครงคร่าวที่ผนังเดิม แล้วแทรกแผ่นกันเสียงเข้าไป ก่อนจะปิดผิวผนังให้เรียบร้อย ซึ่งในขั้นนี้ หากทำอย่างไม่ระมัดระวัง ตัวแผ่นกันเสียงได้รับความเสียหาย ก็จะทำให้ประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานของแผ่นกันเสียงนั้นลดลงได้
ดังนั้น เพื่อให้การทำห้องเก็บเสียง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง ก็ควรได้รับการติดตั้งต่อเติมภายในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาเสียงโดยเฉพาะจะดีกว่า
3.บริการหลังการติดตั้ง เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
ในกรณีที่เราซื้อแผ่นกันเสียง หรือวัสดุอะคูสติกมาติดตั้งเอง หากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น มีการติดตั้งผิดพลาด ป้องกันเสียงไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เราก็จะต้องเป็นคนรับผิดชอบแก้ไขเองทั้งหมด ต้องเสียเวลาและงบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งก็ไม่มีใครบอกได้ว่า จะต้องจ่ายอีกเท่าไรกว่าที่จะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
แต่หากเป็นการใช้บริการผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพแล้ว หากมีปัญหาเกิดขึ้น ไม่สามารถกันเสียงดังได้จริงตามที่ตกลงไว้ หรือไม่สามารถลดระดับความดังของเสียงลงไปอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดไว้ได้ ความรับผิดชอบทั้งหมด ทางผู้เชี่ยวชาญก็จะเป็นคนดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ ซึ่งทำให้เราอุ่นใจได้มากขึ้นว่า จะไม่เสียงบประมาณเพิ่มเติมตามมาภายหลัง ดังนั้น ถ้าปรารถนาจะแก้ไขปัญหาเสียงให้ได้ผลจริง ๆ ล่ะก็ การใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงโดยเฉพาะ ถือเป็นทางออกที่ประหยัดและปลอดภัยคุ้มค่ามากที่สุด
ทีมงาน Acoustic Expert เป็นหนึ่งในทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาเสียง ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานมากว่า 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาเสียงดัง ในบ้าน คอนโด โรงงาน ออฟฟิศ หรือ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาเสียงก้องเสียงสะท้อนให้ห้องประชุม สตูดิโอก็ทำได้ ซึ่งวัสดุอะคูสติกที่ใช้ ก็เลือกใช้วัสดุคุณภาพจากแบรนด์ SCG อาทิ แผ่นกันเสียง SCG รุ่น Cylence Zoundblock สำหรับแก้ไขปัญหาเสียง แผ่นซับเสียง SCG รุ่น Cylence Zandera ใช้แก้ไขปัญหาเสียงก้องเสียงสะท้อน จึงมั่นใจได้ว่า จะสามารถแก้ไขทุกโจทย์ปัญหาเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนห้องเดิม ๆ เป็นห้องเก็บเสียง หรือมีปัญหาเสียงต้องการขอคำปรึกษาล่ะก็ สามารถติดต่อขอคำแนะนำผ่านช่องทางออนไลน์มาฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งยังพร้อมบริการแก้ไขปัญหาเสียงได้ทุกรูปแบบทั่วประเทศ