ปัญหาเสียงดังรบกวน ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือว่าสถานที่ใดก็แล้วแต่ ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำลายทั้งสุขภาพกาย ใจ และประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปพร้อมกัน ๆ ซึ่งปัจจุบันวิธีการแก้ไขปัญหาเสียงดังที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือการติดตั้ง “แผ่นกันเสียง” หรือในวงการจะเรียกกันว่า การติดตั้งระบบผนังกันเสียง โดยจะเป็นเหมือนการเสริมผนังเดิมให้หนาขึ้นด้วยวัสดุอะคูสติกที่มีคุณสมบัติในการป้องกันเสียง จึงทำให้เสียงดังเบาลงได้อย่างชัดเจน หรือถ้าทำแบบเต็มรูปแบบก็กลายเป็น “ห้องเก็บเสียง” ได้เลย
แต่อย่างไรก็ตาม การติดแผ่นกันเสียงก็อาจไม่ประสบความสำเร็จเสมอไปก็ได้ หากเรามีความเข้าใจไม่มากพอ หรือเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนบางอย่างไป โดยสิ่งสำคัญที่ควรทราบไว้ก่อนตัดสินใจติดแผ่นกันเสียงเพื่อไม่ให้เสียใจภายหลังนั้น มีดังต่อไปนี้
1.ไม่สามารถกันเสียงที่เกิดจากแรงสั่นสะเทือน
วัสดุอะคูสติก หรือ ตัววัสดุแผ่นกันเสียงนั้น จะมีคุณสมบัติในการป้องกันไม่ให้เสียงดังเดินทางทะลุเข้าออกได้ง่าย ๆ แต่กับเสียงที่เกิดจากการ เคาะ กระแทก การกระโดด เดินลงส้นเท้าหนัก ๆ ที่มีการสั่นสะเทือนกับผนังนั้นจะต่างจากเสียงดังทั่วไป เพราะต่อให้เป็นตัวแผ่นกันเสียงเอง ถ้าถูกตีหรือถูกกระแทกก็จะเกิดเสียงดังได้ทั้งสิ้น เหมือนเราเอาไม้ตีเบาะยาง เอามือทุบผนัง ทุบกระจกรถ กระจกกันเสียง ยังไงก็จะเกิดเสียงดังขึ้น
ดังนั้นเอง หากปัญหาที่เจออยู่คือปัญหาจากการเคาะ กระแทก จนเกิดเสียงดัง เสียงสั่นสะเทือนในโครงสร้างผนังล่ะก็ ต่อให้ติดผนังกันเสียงไป ก็จะไม่สามารถบรรเทาเสียงดังลงได้ จริงอยู่ที่อาจเบาลงได้บ้าง แต่จะไม่สามารถให้ผลลัพธ์ได้อย่างที่เราต้องการ ทางแก้ก็คือต้องลดที่ต้นเหตุ คือ ต้องทำให้ไม่เกิดการเคาะ กระแทกขึ้น จึงจะเป็นการดีที่สุด ซึ่งน่าจะต้องอาศัยการเจรจากับเพื่อนข้างบ้านที่เคาะ กระแทก ผนังจนทำให้เกิดเสียงดังขึ้น
2.ติดแค่บางส่วนอาจกันเสียงได้ไม่ดีพอ
หลักการ “ติดตั้งผนังกันเสียง” นั้น จะต้องมีการคำนวณ “แผ่นกันเสียง” หรือ “แผ่นอะคูสติก” ที่ใช้ให้เพียงพอต่อการป้องกันเสียงดังที่เกิดขึ้น ซึ่งจำนวนแผ่นอะคูสติกที่ใช้จะมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าเสียงดังทะลุมาทางไหนบ้าง หลาย ๆ คนอาจรู้สึกว่า เสียงดังมาจากผนังด้านใดด้านหนึ่ง แต่ในความเป็นจริง อาจดังมาจากผนังด้านอื่น ๆ ก็ได้ ที่เราไม่รู้ หรือคิดไม่ถึง ทำให้การจะตัดสินว่า ติดตั้งแค่บางส่วนก็น่าจะพอ จึงเป็นสิ่งที่อาจไม่ตอบโจทย์ และจำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญลงสำคัญพื้นที่ตรวจสอบให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนที่สุด
ทั้งนี้ ราคาในการติดตั้งระบบผนังกันเสียงนั้นจะคิดเป็นตารางเมตร จึงทำให้หลาย ๆ คนมองว่า ถ้าติดเยอะไปก็จะแพง ใช้ทุนสูง จึงพยายามจำกัดพื้นที่ในการติด แต่ลืมคิดไปว่าถ้าติดแผ่นกันเสียงไม่มากพอ ไม่ตรงจุดที่เป็นต้นเหตุของเสียงดังที่ทะลุเข้ามา ก็จะไม่สามารถกันเสียงได้จริง กลายเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าไปในที่สุด
3.ติดตั้งในพื้นที่เปิดไม่ได้
มีหลาย ๆ คนอยากติดผนังกันเสียงนอกบ้าน เหมือนเป็นรั้วกันเสียงรถยนต์ เสียงก่อสร้าง เสียงดังในชุมชน หรือร้านอาหารบางร้านที่เป็นแบบเปิด ก็ถูกชุมชนต่อว่ามาว่าเสียงจากร้านดังไปรบกวนข้างนอก ก็อยากที่จะทำผนังกันเสียงขึ้นมา ตรงนี้จริง ๆ ถามว่าทำได้ไหมคำตอบคือได้ แต่ไม่สามารถกันเสียงได้ผลเลย เพราะ เสียงจะทะลุเหนือกำแพงเข้ามาสู่ภายในได้อยู่ดี หลักการของการติดแผ่นกันเสียงคือเสริมจากผนังเดิม
นั่นหมายความว่า ถ้าทำพื้นที่ภายนอก ก็ต้องก่อกำแพงขึ้นมาแล้วติดแผ่นกันเสียงเข้าไป แต่สำคัญตรงที่ ถ้ากำแพงไม่ได้สูงจนปิดบ้าน ปิดร้านถึงหลังคา ก็จะกันเสียงไม่ได้อยู่ดี ให้ลองนึกถึงคอนโดสูง ๆ ที่แม้จะอยู่ชั้น 20-30 แต่ถ้าไม่ปิดหน้าต่าง ประตูให้ดี เสียงรถบนถนนดัง ๆ เสียงก่อสร้างใกล้ ๆ ก็ดังทะลุเข้าห้องได้อยู่ดี จนกว่าเราจะปิดหน้าต่าง ประตูนั่นแหละ ถึงจะเบาเสียงลงได้ ดังนั้น ด้วยหลักการเดียวกันนี้ ถ้าจะทำระบบกันเสียงดังในพื้นที่ปิดล่ะก็ จะต้องก่อกำแพงให้สูงเท่ากับสิ่งปลูกสร้างนั้น ๆ จึงจะสามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ในการป้องกันเสียงดังได้
4.ผนังซับเสียงไม่ใช่แผ่นกันเสียง
อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่หลาย ๆ คนพลาดกันก็คือ ไปติดแผ่นซับเสียงแทนแผ่นกันเสียง ด้วยเพราะแผ่นซับเสียงเป็นเสมือนผนังตกแต่ง ที่ให้ความสวยงามได้ด้วยในตัว จึงรู้สึกว่าคำว่า “ซับเสียง” ก็คือดูดเสียงได้ ก็น่าจะทำให้เสียงดังเบาลงได้ แต่ในทางปฏิบัติ คุณสมบัติของแผ่นซับเสียงไม่ได้เกิดมาเพื่อช่วยป้องกันเสียงดังทะลุเข้าออก แต่เป็นวัสดุอะคูสติกที่ช่วยในการแก้ไขปัญหาเสียงก้องเสียงสะท้อน
ดังนั้น หากต้องการจะแก้ไขปัญหาเสียงดัง จะต้องติด “แผ่นกันเสียง” ไม่ใช่ “แผ่นซับเสียง” ก่อนตัดสินใจจึงต้องศึกษาทำความเข้าใจเรื่องวัสดุอะคูสติกให้ดี และถามตัวเองให้แน่ชัดว่าต้องการแก้ไขปัญหาเสียงด้านใดกันแน่ เพื่อเลือกใช้วัสดุอะคูสติกได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และไม่เป็นการเสียเงินลงทุนไปแบบไร้ผล
การติดตั้งแผ่นกันเสียง เพื่อเสริมเป็นระบบผนังกันเสียงนั้น ถือเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาเสียงดังที่มีประสิทธิภาพที่สุดแล้วในปัจจุบัน แต่ก็จำเป็นต้องได้รับการติดตั้ง ออกแบบ และวางแผนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงโดยเฉพาะ ซึ่งทีมงาน Cylence Expert สามารถทำหน้าที่นั้นได้เป็นอย่างดี โดยเป็นทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงโดยตรง ใช้วัสดุอะคูสติก SCG อย่าง Cylence Zoundblock เป็นหลัก ซึ่งเป็นแผ่นกันเสียงที่ทำจากฉนวนใยแก้วที่มีคุณภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ สำหรับใครที่กำลังต้องการแก้ไขปัญหาเสียงดัง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด ออฟฟิศ หรือโรงงาน สามารถติดต่อขอคำปรึกษาทีมงานได้ฟรีผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมีบริการจำหน่ายพร้อมติดตั้งวัสดุอะคูสติกทุกชนิด ทั่วประเทศไทย