เมื่อเอ่ยถึง “ห้องดูหนัง” แล้ว หลายๆ คนอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัวและไม่จำเป็น เพราะปกติก็นอนดูหนังในบ้านอยู่ทุกวัน แต่สำหรับบ้านที่มีหลายห้อง มักจะให้ความสำคัญกับการทำ ห้องดูหนัง หรือห้องโฮมเธียร์เตอร์โดยเฉพาะเป็นพิเศษ เพื่อให้เกิดความเป็นสัดส่วน เป็นส่วนตัว
และที่สำคัญคือ ไม่ให้เสียงจากห้องดูหนังดังรบกวนไปยังห้องอื่นๆ ซึ่งในกระบวนการของการเปลี่ยนห้องที่บ้านสักห้อง ให้เป็นห้องดูหนังที่มีประสิทธิภาพ มีเสียงที่ดี และไม่ส่งเสียงดังรบกวนออกไปยังห้องอื่นๆ นั้น จำเป็นจะต้องพิจารณาหลายๆ ปัจจัย โดยเริ่มต้นตั้งแต่การเลือกห้องให้เหมาะกับการทำเป็น ห้องดูหนัง ให้ได้มากที่สุด ซึ่งควรมีลักษณะดังต่อไปนี้
1.ตำแหน่งห้องดูหนังควรไกลจากห้องอื่นๆ ให้ได้มากที่สุด
เนื่องจากห้องดูหนังเป็นห้องที่ต้องใช้เสียงดังเพื่ออรรถรสในการรับชมรับฟัง ดังนั้น หากเป็นไปได้ จึงควรเลือกห้องที่อยู่ในตำแหน่งริมสุด ไม่มีผนังด้านใดด้านหนึ่งใช้ร่วมกับผนังห้องอื่นๆ
หรือผนังห้องเพื่อนบ้านข้างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากห้องข้างๆ เป็นห้องนอน หรือห้องทำงานด้วยแล้ว ควรหลีกเลี่ยง เพราะเสียงดังจากห้องดูหนังจะทะลุผ่านผนังที่ใช้ร่วมกันเข้าไปรบกวนจนสร้างความรำคาญใจได้
โดยที่นิยมทำกันนั้น มักจะใช้ห้องในตำแหน่งที่เป็นปีกยื่นออกจากตัวบ้าน หรือตามโครงการบ้านจัดสรรที่ทำห้องตัวอย่างให้เยี่ยมชม เรามักจะพบเห็นห้องดูหนังอยู่บริเวณชั้นล่าง เป็นห้องใต้บันไดที่ติดกับห้องน้ำ ซึ่งก็เพื่อหลีกเลี่ยงตำแหน่งห้องที่ติดกับห้องอื่นๆ ภายในบ้านนั่นเอง
2.ขนาดของห้องดูหนังไม่ควรกว้างใหญ่เกินไป
หลายๆ คนอาจคิดว่าในเมื่อจะทำห้องดูหนังทั้งที ก็ควรทำให้กว้าง ให้ใหญ่เหมือนดูหนังในโรงหนังไปเลยดีกว่า ซึ่งก็ไม่ใช่ความคิดที่ผิด แต่สิ่งที่ต้องเข้าใจก็คือ ยิ่งห้องดูหนังกว้างมากเท่าไร
การควบคุมประสิทธิภาพของเสียงภายในห้องดูหนังก็จะยิ่งยากมากขึ้นเท่านั้น เพราะห้องยิ่งกว้าง เสียงก้อง เสียงสะท้อนก็จะยิ่งมาก ทำให้เราต้องจัดตกแต่ง และต่อเติมระบบป้องกันเสียงก้องเสียงสะท้อนมากขึ้น
ซึ่งก็จะส่งผลต่อการควบคุมงบประมาณให้ยิ่งบานปลายมากขึ้น ทั้งนี้สัดส่วนของการติดปริมาณ “แผ่นซับเสียง” หรือ “ผนังดูดซับเสียง” ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้สำหรับการแก้ไขปัญหา และควบคุมเสียงก้องเสียงสะท้อนที่เหมาะสมนั้น จะอยู่ที่ประมาณ 70% ของพื้นที่ห้องเป็นอย่างน้อย
3.ไม่ควรมีประตู หน้าต่าง และกระจกมากเกินไปในห้องดูหนัง
ประตู-หน้าต่าง เป็นหนึ่งในทางผ่านทะลุเข้าออกของเสียงได้ ซึ่งจะทำให้เสียงดังจากภายนอกเข้ามารบกวนภายในห้องดูหนัง รวมถึงเสียงดังจากภายในห้องดูหนังเองก็จะทะลุออกไปสร้างความรำคาญให้กับภายนอกได้เช่นกัน
ดังนั้น ในการเลือกห้องที่จะนำมาทำเป็นห้องดูหนังจึงควรเลือกห้องที่มีประตูหน้าต่างน้อย เพื่อช่วยลดช่องทางเดินทะลุของเสียงลงให้เหลือน้อยที่สุด
นอกจากนั้นแล้ว “กระจก” สำหรับตกแต่งในห้องก็ไม่ควรมีมากเกินไป เพราะกระจกเป็นวัสดุที่ไม่ได้ช่วยเรื่องการดูดซับเสียง การติดกระจกบานใหญ่เอาไว้ในห้องดูหนัง จะส่งผลทำให้ยิ่งเกิดเสียงก้อง เสียงสะท้อนมากขึ้น
ดังนั้น จึงควรเลือกห้องที่ไม่มีกระจก และปรับสไตล์การตกแต่งเป็นหาเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากผ้า หนัง เช่นผ้าม่านมาติดจะดีกว่า เพราะเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับเสียงได้ ทำให้เสียงก้องเสียงสะท้อนในห้องดูหนังลดน้อยลงได้
หลายๆ คนอาจรู้สึกว่าสามารถนำห้องอะไรมาทำเป็นห้องดูหนังก็ได้ แต่ในความเป็นจริงนั้น ถ้าเราเลือกห้องที่มีลักษณะเหมาะสม ที่เอื้อต่อการทำห้องดูหนังตามปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นได้ ก็จะช่วยทำให้เราได้ห้องดูหนังที่มีประสิทธิภาพ สามารถจัดการควบคุมปัญหาเสียงดัง เสียงก้อง และเสียงสะท้อนได้ง่ายดายมากขึ้น สามารถควบคุมงบประมาณในการทำห้องดูหนังได้ดีขึ้น ประหยัดและคุ้มค่ามากขึ้น
เพราะในการทำห้องดูหนังนั้น จะต้องใช้ทั้งผนังกันเสียง และแผ่นซับเสียง เพื่อช่วยในเรื่องการป้องกันเสียงดัง และเสียงก้องเสียงสะท้อน ซึ่งหากเราไม่ได้เลือกลักษณะห้องที่ดีพอ ก็จะส่งผลต่อปริมาณการใช้วัสดุสำหรับแก้ไขปัญหาเสียง ทำให้ต้องสูญเสียงบประมาณเพิ่มมากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็นนั่นเอง
ทั้งนี้ สำหรับใครที่กำลังวางแผนต้องการเปลี่ยนห้องในบ้านให้เป็นห้องดูหนัง ฟังเพลง ร้องคาราโอเกะ หรือห้องโฮมเธียร์เตอร์ล่ะก็ สามารถขอคำแนะนำ และปรึกษาได้ฟรี จากทีมงาน Acoustic Expert ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า จะสามารถวางแผนการและควบคุมงบประมาณสำหรับการทำห้องดูหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ