ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงสำคัญแค่ไหน ทำไมผู้ประกอบการถึงควรเลือกใช้เพื่อแก้ไขปัญหาเสียง
ในแง่ของผู้อยู่อาศัยแล้ว ปัญหาเสียงรบกวนอาจเป็นปัญหาที่สามารถ “อดทนได้” หรือ “ปล่อยผ่านได้” เพราะชีวิตเราก็คงใช้เวลาอยู่กับบ้านที่ต้องเผชิญหน้ากับเสียงรบกวนไม่เท่าไร แต่กับ “สถานประกอบการ” หรือ “โรงงาน ออฟฟิศ” แล้ว ปัญหาเสียงถือเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ เพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน และด้วยระยะเวลาที่หากทำงานอยู่กับเสียงรบกวน เสียงที่เป็นอันตรายนานเกินไป ก็จะส่งผลต่อสภาพร่างกายและจิตใจให้ทรุดโทรมลงด้วย
อีกทั้งในแง่ของกฎหมาย การที่สถานประกอบการไม่สามารถควบคุมระดับเสียงให้ได้ตรงตามมาตรฐานนั้น ก็ถือว่าเป็นการกระทำความผิดต่อบทบาทหน้าที่ควรรับผิดชอบของตนเอง นั่นจึงทำให้ “การควบคุมแก้ไขปัญหาเสียง” เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องให้ความสำคัญ และเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสมที่สุด การเลือกใช้บริการขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านเสียง จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด
อะไรคือข้อดีของการใช้บริการผู้เชี่ยวชาญด้านเสียง
ผู้ประกอบการหลายคนอาจมองว่าการใช้บริการขอคำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงเพื่อแก้ไขปัญหาเสียงนั้น เป็นการสิ้นเปลือง ไม่จำเป็น เพราะสามารถหาความรู้ได้ทางอินเตอร์เน็ต หรือปรึกษาเจ้าตัวแทนจำหน่ายวัสดุอะคูสติกสำหรับแก้ไขปัญหาเสียงได้โดยตรงเลยก็ได้
แต่ทั้งนี้ คำปรึกษาหรือคำแนะนำที่ได้ หรือ ข้อมูลที่เราค้นเอง ก็อาจไม่ได้นำมาซึ่งการแก้ไขที่มีประสิทธิภาพ เท่ากับการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงโดยตรง เพราะ “เรื่องเสียง” เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เป็นศาสตร์ที่มีรายละเอียดทางวิทยาศาสตร์ผสมผสานอยู่ เป็นความรู้เฉพาะทางที่ไม่ใช่ใครทุกคนก็สามารถทำได้ โดยการศึกษาแบบผิวเผิน ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจและตระหนักถึงความจำเป็นของการใช้บริการผู้เชี่ยวชาญด้านเสียง เราจะไปดูกันครับว่า ข้อดีของการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยตรงนั้น มีอะไรบ้าง ดังต่อไปนี้
- ผู้เชี่ยวชาญสามารถวิเคราะห์ได้แม่นยำกว่าว่าแหล่งกำเนิดเสียงใดที่เป็นปัญหาจริงๆ
- ผู้เชี่ยวชาญมีเครื่องมือในการตรวจวัดเสียงที่แม่นยำ ทำให้นำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องมากกว่า
- ผู้เชี่ยวชาญสามารถตัดสินใจเลือกใช้วัสดุแก้ไขปัญหาเสียง ได้ถูกต้อง เหมาะสม และคุ้มค่าคุ้มราคาได้มากกว่า
- ผู้เชี่ยวชาญสามารถออกแบบการแก้ไขปัญหาเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
- ผู้เชี่ยวชาญสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ดีกว่า และให้ผลลัพธ์ที่ตรงตามต้องการมากกว่า
- ผู้เชี่ยวชาญสามารถควบคุมเวลาในการแก้ไขปัญหาเสียงได้ดีกว่า จึงทำให้สามารถช่วยลดต้นทุนในการทำงานได้มากกว่า
ความสำคัญของผู้เชี่ยวชาญด้านเสียง ถ้าจะเปรียบให้เข้าใจแล้วนั้น ก็เหมือนกับ คุณหมอ ที่บางทีหลายๆ คนเวลาป่วย ก็มักไม่อยากไปหาหมอ เพราะกลัวว่าจะแพง กลัวเสียเวลา จึงตัดสินใจไปซื้อยากินเอง หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต และปรึกษาเภสัชตามร้านขายยา ซึ่งแน่นอนว่าก็แก้ไขปัญหาได้ประมาณหนึ่ง แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง เราก็รักษาโรคตัวเองไม่หาย เราก็ทำให้ตัวเองป่วยหนักตกที่นั่งลำบาก เราเสียเงินไปแล้วจำนวนมากกับการซื้อยากินเอง และสุดท้ายเราก็ต้อง “ไปหาหมอ” ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่สุดอยู่ดี เพื่อรักษาตัวเองให้หายขาดจากโรคร้ายที่ตามรังควาน
ซึ่งเหตุการณ์ทำนองนี้ก็เช่นเดียวกันกับ “การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านเสียง” เพื่อแก้ไขปัญหาเสียงเลยครับ ที่หากเราปรึกษาหรือเข้ารับการแก้ไขปัญหาเสียงผ่าน “คุณหมอเสียง” ตั้งแต่แรก เราก็จะประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย และได้รับการรักษาที่ตรงจุด ถูกต้อง เหมาะสม จนหายดีอย่างมีประสิทธิภาพ