ห้องอัดเสียง ถือเป็นอีกหนึ่งห้องสำคัญ ที่หากเราไม่จัดการควบคุมปัญหาเรื่องเสียงให้ดีแล้ว ก็จะส่งผลทำให้คุณภาพของเสียงที่อัดออกมานั้นไม่ได้ประสิทธิภาพตามอย่างที่ใจต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์สด การอัดวีดีโอยูทูป ของเหล่าอาชีพ Blogger หรือจะเป็นห้องอัดของธุรกิจห้องซ้อมดนตรี สตูดิโอ คาราโอเกะ ฯลฯ ก็ถือว่าควรได้รับการจัดการออกแบบ ปรับปรุงต่อเติม เพื่อให้แก้ไขปัญหาเสียงก้อง เสียงสะท้อนให้หมดไปทั้งสิ้น ทั้งนี้ แนวทางในการแก้ไขปัญหาเสียงก้อง เสียงสะท้อนในห้องอัดนั้น มีสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจ ดังต่อไปนี้
1. ทำห้องอัดเสียง ต้องคำนึงถึงค่า RT60
ค่า RT60 หรือ Reverberation Time หมายถึงค่าความก้อง ที่แสดงเวลาการสะท้อนกลับของเสียงที่คงเหลืออยู่เมื่อเสียงต้นกำเนิดนั้นหยุดลงแล้ว ซึ่งหากค่า RT60 มากเกินไป ก็จะทำให้เราได้ยินเสียงก้อง เสียงสะท้อนมาก ส่งผลต่อการอัดเสียงที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้เสียงไม่ชัดเจน แต่ในขณะเดียวกัน หากค่า RT60 น้อยเกินไป ก็จะส่งผลทำให้เสียงหายเร็วเกินไป ซึ่งสำหรับห้องอัดแล้วอาจไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าเป็นในห้องซ้อมดนตรี การที่เสียงแห้ง หรือเสียงหายเร็วเกินไปนั้น ก็อาจทำลายบรรยากาศของเสียงเพลงให้ลดลงได้ ทั้งนี้ สำหรับการทำห้องบันทึกเสียง ห้องไลฟ์สด เพื่อให้ผู้ชมได้ยินเสียงที่ชัดเจน ควรควบคุมให้ห้องมีค่าความก้อง หรือค่า RT60 ไม่เกิน 0.6 วินาที
2. วัสดุดูดซับเสียง คือการแก้ไขปัญหาเสียงก้องที่ดีที่สุด
ในการจะทำให้ห้องอัดเสียง ห้องสตูดิโอ ห้องซ้อมดนตรี ไม่มีปัญหาเสียงก้อง เสียงสะท้อนนั้น เราจำเป็นต้องออกแบบห้อง หรือแก้ไขปรับปรุงห้อง ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติในการดูดซับเสียงเข้ามาช่วย อาทิ วัสดุอะคูสติก เอสซีจี ผนังตกแต่งดูดวับเสียง Cylence Zandera ที่ผลิตจากแผ่นกลาสวูล มีคุณสมบัติในการดูดซับเสียง ทำให้ลดปัญหาเสียงก้องเสียงสะท้อนได้เป็นอย่างดี ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งสำคัญนอกจากการเลือกใช้วัสดุดูดซับเสียงที่ดีแล้ว ก็คือ จำเป็นต้องคำนวณปริมาณให้เหมาะสมด้วยว่า ต้องใช้วัสดุดูดซับเสียงมากน้อยแค่ไหน จึงจะสามารถควบคุมเสียงก้องเสียงสะท้อนให้หมดไปได้จริงๆ นั่นเองจึงทำให้การแก้ไขปัญหาเสียงก้องเสียงสะท้อนในห้องอัด ควรได้รับคำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงโดยเฉพาะ
3. ขนาดของห้องมีผลต่อการออกแบบแก้ไขปัญหาเสียงก้อง
ยิ่งขนาดของห้องอัดมีความกว้างใหญ่มากเท่าไร การแก้ไขปัญหาเสียงก้อง เสียงสะท้อนในห้องอัด ก็จะต้องมีการคำนวณและออกแบบที่ซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น สิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้การแก้ไขปัญหาเสียงก้อง เสียงสะท้อนในห้องอัดเสียง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด จึงควรมีการวัดค่าความก้องของเสียงด้วยเครื่องมือเฉพาะทางก่อนทำการแก้ไขเสมอ แล้ววางแผนออกแบบการแก้ไขปัญหาเสียงก้องโดยละเอียดให้เหมาะสมกับห้องนั้นๆ และหลังจากนั้นเมื่อแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ก็จำเป็นต้องวัดค่าความก้องใหม่อีกครั้งด้วย เพื่อตรวจสอบว่า การแก้ไขเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่งจุดนี้เอง จึงทำให้หากเราไม่ได้ปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงโดยตรง ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ และการต้องแก้ไขซ้ำซ้อนจนสูญเสียงบประมาณมากกว่าเดิมได้
วัตถุประสงค์สำคัญที่สุดของการใช้ห้องอัดเสียง ห้องบันทึกเสียง คือการให้ได้มาซึ่งเสียงอันมีคุณภาพ ฟังชัดเจน เพื่อให้สามารถสื่อสารสิ่งสำคัญไปยังผู้ฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ดังนั้น เรื่องของการออกแบบ การแก้ไขปัญหาเสียงก้องเสียงสะท้อน ให้ห้องอัด หรือห้องทำงานของเราสามารถควบคุมเสียงได้ดี ไม่มีความก้องมากจนเกินไป จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม และควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อให้การทำงานใช้ห้องอัดเสียงของเรา เป็นไปได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด