เสียงดังในโรงงาน ผิดกฎหมายหรือไม่ มาตรฐานและบทลงโทษที่ควรรู้

ปัญหาเสียงดังในโรงงานเป็นประเด็นสำคัญด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของพนักงานโดยตรง หลายคนอาจสงสัยว่าการที่เสียงดังในโรงงานเกินมาตรฐานนั้นถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ และผู้ประกอบการมีหน้าที่อย่างไรในการจัดการกับปัญหานี้ บทความนี้จะอธิบายถึงข้อกฎหมาย มาตรฐาน และความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมเสียงดังในโรงงานอย่างละเอียด

 

มาตรฐานระดับเสียงดังในโรงงานตามกฎหมายไทย

การควบคุมเสียงดังในโรงงานในประเทศไทยอยู่ภายใต้กฎกระทรวงและประกาศกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการทำงาน เมื่อพิจารณาถึงมาตรฐานเสียงในที่ทำงาน จะพบว่ามีการกำหนดระดับเสียงสูงสุดที่ยอมรับได้ไว้อย่างชัดเจน

กฎหมายได้กำหนดว่าเสียงดังในโรงงานต้องไม่เกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ ซึ่งโดยทั่วไปคือ

  • ไม่เกิน 85 เดซิเบล (A) สำหรับการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน
  • หากมีระดับเสียงเกิน 85 เดซิเบล (A) ต้องลดระยะเวลาการทำงานลงตามสัดส่วน
  • ห้ามให้ลูกจ้างทำงานในพื้นที่ที่มีระดับเสียงเกิน 140 เดซิเบล (A)

 

การที่เสียงดังในโรงงานเกินกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดโดยไม่มีมาตรการป้องกันpที่เหมาะสม ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอาจนำไปสู่บทลงโทษตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

 

หน่วยงานที่กำกับดูแลมาตรฐานเสียงดังในโรงงาน

การควบคุมดูแลเสียงดังในโรงงานอยู่ภายใต้การกำกับของหลายหน่วยงาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน

 

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบเรื่องการตรวจสอบมาตรฐานเสียงในที่ทำงาน โดยมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานทำหน้าที่ตรวจสอบสถานประกอบการว่าปฏิบัติตามมาตรฐานหรือไม่ นอกจากนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมยังมีบทบาทในการควบคุมกฎหมายควบคุมเสียงที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโรงงาน โดยเฉพาะในแง่ของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบด้วย

 

 

บทลงโทษทางกฎหมายเมื่อเสียงดังในโรงงานเกินมาตรฐาน

การละเลยการควบคุมเสียงดังในโรงงานให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยนั้นไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพของพนักงานเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่บทลงโทษทางกฎหมายได้ การเข้าใจถึงความรับผิดและบทลงโทษจะช่วยให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามมาตรฐาน

 

ผู้ประกอบการที่ปล่อยให้มีเสียงดังในโรงงานเกินมาตรฐานอาจได้รับบทลงโทษดังนี้

  1. การออกคำสั่งให้ปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด
  2. การสั่งหยุดการใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดเสียงดังเกินมาตรฐาน
  3. โทษปรับทางปกครองหรือทางอาญา ซึ่งอาจมีมูลค่าสูงถึงหลายแสนบาท
  4. ในกรณีร้ายแรง อาจถูกสั่งปิดโรงงานชั่วคราวหรือถาวร

 

อันตรายจากเสียงดังที่ส่งผลให้พนักงานได้รับอันตรายอาจนำไปสู่การเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติมตามกฎหมายแรงงานและกฎหมายละเมิดได้อีกด้วย

 

การฟ้องร้องกรณีเสียงดังในโรงงานที่ก่อให้เกิดอันตราย

เมื่อเสียงดังในโรงงานก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงาน การฟ้องร้องเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายสามารถดำเนินการได้หลายช่องทาง ทั้งผ่านกระบวนการทางแพ่งและอาญา

 

พนักงานที่ได้รับผลกระทบจากเสียงดังในโรงงานจนเกิดอันตรายต่อการได้ยินหรือสุขภาพ สามารถดำเนินการดังนี้

  1. ยื่นคำร้องต่อสำนักงานประกันสังคมเพื่อเรียกร้องเงินทดแทนกรณีเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน
  2. ฟ้องร้องนายจ้างในทางแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม
  3. แจ้งความดำเนินคดีอาญาในกรณีที่นายจ้างจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง

 

การเรียกร้องค่าเสียหายในกรณีอันตรายจากเสียงดังมักมีความซับซ้อน เนื่องจากต้องพิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเสียงดังในโรงงาน ดังนั้น การเก็บหลักฐานและการตรวจสอบทางการแพทย์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

 

มาตรการป้องกันและควบคุมเสียงดังในโรงงานตามกฎหมาย

การปฏิบัติตามกฎหมายในการควบคุมเสียงดังในโรงงานไม่เพียงช่วยหลีกเลี่ยงบทลงโทษ แต่ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อพนักงานและสังคม ผู้ประกอบการควรทราบถึงมาตรการที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งกฎหมายได้กำหนดมาตรการควบคุมเสียงดังในโรงงานไว้ ดังนี้

  1. จัดให้มีการตรวจวัดระดับเสียงในพื้นที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอ
  2. จัดทำแผนผังแสดงระดับเสียงในแต่ละพื้นที่ของโรงงาน
  3. จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล เช่น ที่อุดหู หรือที่ครอบหู
  4. ควบคุมระยะเวลาการทำงานในพื้นที่ที่มีเสียงดังเกินมาตรฐาน
  5. ติดป้ายเตือนในบริเวณที่มีระดับเสียงเกินมาตรฐาน

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเชิงวิศวกรรมที่ช่วยลดรับดังเสียงดังในที่ทำงาน เช่น การติดตั้งวัสดุกันเสียง เช่น แผ่นกันเสียง SCG รุ่น Cylence Zoundblock การปรับปรุงเครื่องจักรให้มีเสียงน้อยลง หรือการสร้างห้องควบคุมเสียงสำหรับเครื่องจักรที่มีเสียงดัง

แผ่นกันเสียง SCG รุ่น Cylence Zoundblock ตัวช่วยแก้ไขปัญหาเสียงดังในโรงงาน

 

การตรวจวัดและประเมินระดับเสียงดังในโรงงาน

การตรวจวัดระดับเสียงดังในโรงงานเป็นขั้นตอนสำคัญในการปฏิบัติตามกฎหมายและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น การตรวจวัดที่ถูกต้องต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญและใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน ทั้งนี้ การตรวจวัดเสียงดังในโรงงานควรดำเนินการอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตหรือเครื่องจักรที่อาจส่งผลต่อระดับเสียง โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. การวางแผนการตรวจวัดโดยระบุตำแหน่งและช่วงเวลาที่จะทำการวัด
  2. การใช้เครื่องวัดเสียงที่ได้มาตรฐานและผ่านการสอบเทียบ
  3. การบันทึกผลการตรวจวัดอย่างละเอียดและเป็นระบบ
  4. การวิเคราะห์ผลเทียบกับมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
  5. การจัดทำรายงานและเสนอแนะมาตรการป้องกันที่เหมาะสม

ผลการตรวจวัดระดับเสียงต้องเก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่า 2 ปี และต้องพร้อมให้พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้

 

ผลกระทบทางสุขภาพจากเสียงดังในโรงงาน

การทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังในโรงงานเกินมาตรฐานเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอันตรายจากเสียงดังที่มีต่อระบบการได้ยิน ความเข้าใจถึงผลกระทบเหล่านี้จะช่วยให้ทั้งผู้ประกอบการและพนักงานตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกัน

 

เสียงดังในโรงงานสามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพดังนี้

  1. การสูญเสียการได้ยินชั่วคราวหรือถาวร
  2. อาการหูอื้อหรือมีเสียงในหู (Tinnitus)
  3. ความเครียดและความดันโลหิตสูง
  4. ปัญหาการนอนหลับและความเหนื่อยล้า
  5. ขาดสมาธิและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

การเฝ้าระวังผลกระทบทางสุขภาพควรรวมถึงการตรวจสุขภาพการได้ยินของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะพนักงานที่ทำงานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อให้สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก

 

 

 

การตรวจสุขภาพการได้ยินของพนักงานในโรงงานที่มีเสียงดัง

การตรวจสุขภาพการได้ยินเป็นส่วนสำคัญของโปรแกรมอนุรักษ์การได้ยินสำหรับพนักงานที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังในโรงงาน กฎหมายกำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจสุขภาพการได้ยินของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ

 

กระบวนการตรวจสุขภาพการได้ยินประกอบด้วย

  1. การตรวจการได้ยินพื้นฐาน (Baseline Audiogram) เมื่อเริ่มเข้าทำงาน
  2. การตรวจการได้ยินประจำปี เพื่อเปรียบเทียบกับผลการตรวจพื้นฐาน
  3. การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของความสามารถในการได้ยิน
  4. การดำเนินการแก้ไขหรือป้องกันเพิ่มเติมหากพบความผิดปกติ

ข้อมูลจากการตรวจสุขภาพการได้ยินไม่เพียงช่วยในการปกป้องสุขภาพของพนักงานเท่านั้น แต่ยังเป็นหลักฐานสำคัญในการพิสูจน์ว่านายจ้างได้ปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมเสียงและดูแลความปลอดภัยของพนักงานอย่างเหมาะสม

 

สรุป

การควบคุมเสียงดังในโรงงานให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยไม่เพียงเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและพนักงาน รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดจากการฟ้องร้องหรือการรักษาพยาบาล

 

ข้อแนะนำสำหรับผู้ประกอบการในการจัดการกับเสียงดังในโรงงาน:

  1. จัดให้มีการตรวจวัดระดับเสียงอย่างสม่ำเสมอและเก็บบันทึกอย่างเป็นระบบ
  2. ลงทุนในมาตรการลดเสียงตั้งแต่แหล่งกำเนิด เช่น การบำรุงรักษาเครื่องจักร หรือการติดตั้งวัสดุดูดซับเสียง
  3. จัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับระดับเสียง
  4. จัดการฝึกอบรมให้พนักงานตระหนักถึงอันตรายจากเสียงดังและวิธีการป้องกันที่ถูกต้อง
  5. จัดให้มีการตรวจสุขภาพการได้ยินอย่างสม่ำเสมอและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

 

การปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานเกี่ยวกับเสียงดังในโรงงานไม่เพียงช่วยหลีกเลี่ยงบทลงโทษทางกฎหมาย แต่ยังเป็นการลงทุนในทรัพยากรบุคคลที่มีค่าที่สุดขององค์กรด้วย สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่มีปัญหาเสียงดังในโรงงาน และอยากแก้ไข สามารถขอคำแนะนำจากทีมงาน Acoustic Expert ได้ฟรี ผ่านข่องทางออนไลน์ ทีมงานมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาเสียงดังในโรงงาน พร้อมให้คำแนะนำ สำรวจหน้างานจริง วัดระดับเสียงดังในโรงงาน และติดตั้งวัสดุกันเสียงเพื่อลดปัญหาเสียงดังโรงงานให้ได้ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ

 

บทความที่น่าสนใจ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า