เสียงรบกวนเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนที่อาศัยในเมืองหรือพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น ไม่ว่าจะเป็นเสียงรถยนต์ เสียงก่อสร้าง หรือแม้แต่เสียงจากเพื่อนบ้าน ทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอนหลับและสุขภาพจิตของเราอย่างมาก หลายคนจึงเริ่มมองหาวิธีการทำ “ห้องกันเสียง” เพื่อสร้างพื้นที่แห่งความสงบในบ้านของตัวเอง แต่การทำห้องกันเสียงนั้นต้องทำอย่างไร? เรามาดูกันว่ามีขั้นตอนอะไรบ้างในการเปลี่ยนห้องนอนธรรมดาให้กลายเป็นห้องกันเสียงที่ช่วยให้คุณหลับสบายขึ้น
วิธีการเปลี่ยนห้องนอนเป็นห้องกันเสียง
การเปลี่ยนห้องนอนของเราให้กลายเป็น “ห้องกันเสียง” นั้น สามารถทำได้ด้วยการเสริมระบบผนังกันเสียง หรืออธิบายง่าย ๆ ก็คือ นำวัสดุอะคูสติก หรือ แผ่นกันเสียง ที่มีความสามารถในการกันเสียงดังทะลุเข้าออกได้ดี มาบุผนังกันเสียง ให้ผนังเดิมมีความสามารถในการกันเสียงได้ดีขึ้น ซึ่งแนวทางในการติดตั้งผนังกันเสียงเพื่อทำห้องกันเสียงนั้น มีขั้นตอนสำคัญหลัก ๆ ด้วยกัน ดังต่อไปนี้
1. สำรวจห้องนอนที่จะทำเป็นห้องกันเสียง
หลาย ๆ คนมักใจร้อน อยากทำห้องกันเสียงให้เสร็จเร็ว ๆ จึงมักมองข้ามการสำรวจพื้นที่ห้องนอนที่ต้องการทำไป ผลเสียที่ตามมาก็คือ อาจทำให้เกิดความผิดพลาดในการติดตั้งที่หน้างานขึ้นได้ เพราะไม่ได้มีการเตรียมพร้อมหน้างานเอาไว้ก่อน ทั้งนี้ ความสำคัญของการสำรวจหน้างานก่อนติดตั้งระบบผนังกันเสียงทำห้องนอนกันเสียงนั้น คือเพื่อให้ทราบว่าผนังด้านไหนของห้องบ้างที่มีปัญหาเสียงดังทะลุเข้าออก ตลอดไปจนสำรวจดูอีกว่า มีเสียงดังทะลุมาจากทางอื่นนอกจากทางผนังอีกด้วยหรือไม่ เช่น เสียงดังทะลุผ่านประตูหน้าต่าง ฝ้าเพดาน หรือรูปลั๊กไฟ เป็นต้น นอกจากนั้นแล้ว การสำรวจหน้างงานก็ยังทำให้ทราบว่า ต้องรื้อ Built In ตรงไหนออกบ้าง ต้องเปลี่ยนรูปลั๊กไฟหรือไม่ เพราะการติดตั้งระบบผนังกันเสียงนั้น หมายถึงการทำผนังเบาชั้นที่ 2 ทับผนังเดิมให้ผนังหนาขึ้น โดยเสริมวัสดุอะคูสติกเข้าไป
2. เลือกวัสดุอะคูสติกที่ตอบโจทย์กับการทำห้องกันเสียง
หัวใจสำคัญของการทำห้องกันเสียง ที่ผนังภายในห้องสามารถกันเสียงดังทะลุเข้าออกได้จริง อยู่ที่การเลือกใช้วัสดุอะคูสติกที่มีความสามารถในการกันเสียงดังทะลุเข้าออกได้ดี ทั้งนี้ แม้ในตลาดจะมีวัสดุอะคูสติกให้เลือกหลากหลาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกันเสียงได้ดีเหมือนกันหมด เพราะวัสดุที่ใช้ในการผลิตต่างกันก็มีความสามารถในการกันเสียงต่างกัน โดยหนึ่งในวัสดุกันเสียงที่ได้รับความนิยมนำมาทำระบบผนังกันเสียงห้องนอนให้เป็นห้องกันเสียงได้ดีนั้น ได้แก่ แผ่นกันเสียง SCG รุ่น Cylence Zoundblock ด้วยเพราะมีความสามารถในการกันเสียงดังทะลุเข้าออกได้ดี มีค่า STC หรือค่าการต้านทานเสียงสูง สามารถใช้งานร่วมกับระบบผนังได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบผนังอิฐมอญ อิฐมวลเบา หรือยิปซั่ม สมาร์ทบอร์ด เป็นต้น
แผ่นกันเสียง SCG รุ่น Cylence Zoundblock
ตัวช่วยเปลี่ยนห้องนอนเป็นห้องกันเสียง
3. ติดตั้งแผ่นกันเสียงเพื่อทำห้องกันเสียง
หลังจากที่เลือกวัสดุอะคูสติกที่พิจารณาดีแล้วว่าตอบโจทย์กับการแก้ไขปัญหาเสียงดังทะลุเข้าออกผ่านผนังได้ ลำดับต่อไปคือการติดตั้งแผ่นกันเสียงที่เลือกเข้าไปที่ผนังเดิมของห้องนอน เพื่อทำให้กลายเป็นห้องกันเสียง ซึ่งขั้นตอนการทำนั้นจะต้องมีการเจาะผนังทำโครงคร่าวผนังเบา ก่อนจะแทรกแผ่นกันเสียงไว้ตรงกลางแล้วปิดผิวผนังด้วยแผ่นสมาร์ทบอร์ดหรือยิปซั่ม โดยจากกระบวนการติดตั้งที่ว่านี้ จึงทำให้ก่อนการติดตั้งจะต้องมีการรื้อ Built In ออกก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถติดตั้งระบบผนังกันเสียงได้ นั่นเองจึงทำให้การสำรวจหน้างานเป็นสิ่งสำคัญมาก
ทั้งนี้ หลายคนอาจกังวลว่าเมื่อติดตั้งระบบผนังกันเสียงไปแล้ว จะไม่สามารถติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ Built In ติดผนังเข้าไปใหม่ได้ เพราะกลัวว่าผนังที่เสริมใหม่จะไม่แข็งแรง รับน้ำหนักของเฟอร์นิเจอร์ไม่ได้ ปัญหานี้จะไม่น่าห่วงเลยหากเราเลือกติดตั้งระบบผนังกันเสียงที่มีคุณภาพมีความแข็งแรงมากพอ อย่างเช่น ระบบผนังกันเสียง SCG Smart Wall Privazy ที่มีความแข็งแรง สามารถรองรับน้ำหนักการ Built In ต่อจุดได้ถึง 100 กิโลกรัม
4. การตรวจสอบเสียงหลังการติดตั้งทำห้องกันเสียง
ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้กับขั้นตอนอื่น ๆ เลย เพราะหากภายหลังติดตั้งไม่ได้มีการตรวจวัดผล ก็อาจจะพูดไม่ได้เต็มปากว่าเราได้ห้องกันเสียงที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เป้าหมายในการทำห้องกันเสียงของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนขอแค่ต้องการให้เสียงดังที่เคยรบกวนเบาลงก็พอ ในขณะที่บางคนก็ขอแบบให้เงียบสนิทกลายเป็นห้องเก็บเสียงไปเลย ดังนั้น รูปแบบของการเลือกแพ็คเกจติดตั้งจึงต่างกัน และการตรวจสอบหลังติดตั้งจึงสำคัญเพราะทำให้ทราบว่า ที่ติดตั้งไปนั้นสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่ และหากยังไม่ได้ความสามารถในการกันเสียงตามเป้า ก็จะได้แก้ไขให้ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการได้
การทำห้องกันเสียงอาจดูเป็นงานใหญ่ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณมีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยลดความเครียดและเพิ่มสมาธิในการทำงานหรือพักผ่อนอีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตในปัจจุบันมาก ๆ ที่เรามัก Work From Home กันหลายวันต่อสัปดาห์ การทำห้องกันเสียง เปลี่ยนห้องนอนให้เป็นห้องเก็บเสียง จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ด้วยงบประมาณเริ่มต้นเพียงแค่ 2,400 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น
สำหรับใครที่มีปัญหาเสียงดังรบกวนจากภายนอก ทะลุเข้ามาภายในห้องนอน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนคอนโด หรือห้องนอนในที่พักอาศัย อาคารพาณิชย์ สามารถขอคำแนะนำจากทีมงาน Acoustic Expert ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ทีมงานมีเจ้าหน้าที่วิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาเสียง คอยดูแลให้คำแนะนำ นัดหมายสำรวจหน้างานจริง และออกแบบติดตั้งระบบผนังกันเสียงทำห้องนอนกันเสียงให้ได้ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด