เสียงรถบนถนนกวนใจ เสียงประกาศขายของในตลาด เสียงคนพลุกพล่านในแหล่งชุมชน เสียงก่อสร้างคอนโดในบริเวณใกล้เคียงบ้าน ฯลฯ ปัญหาเสียงรบกวนจากภายนอกเหล่านี้ คือตัวการสำคัญที่ทำให้ความสุขในบ้านของเราลดน้อยลง และหากปล่อยไว้ ก็อาจจะลุกลามจนทำให้เราเสียสุขภาพกายและสุขภาพจิตไปพร้อมๆ กัน แต่ทั้งนี้ทราบหรือไม่ครับว่า “รั้วบ้าน” ของเรานั้น สามารถมีส่วนช่วยในการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกนี้ได้ชะงัดนัก ซึ่ง 4 เรื่องรั้วบ้านต่อจากนี้ไป เป็นสิ่งที่เราควรรู้ไว้ เพื่อนำไปเป็นแนวทางสำหรับปรับปรุงรั้วบ้านซะใหม่ ให้สามารถช่วยป้องกันเสียงรบกวนภายนอกให้ไม่มารบกวนจิตใจทำลายความสุขของเราและคนในบ้านได้อีก
1. วัสดุรั้วบ้านต่างไป เสียงรบกวนใจจากภายนอกก็ต่างไปด้วย
ทราบหรือไม่ครับว่า “วัสดุที่เราใช้ทำรั้วบ้าน” มีความสามารถในการป้องกันเสียงรบกวนได้ และก็ป้องกันได้ในระดับที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าบ้านเรามีรั้วสังกะสีกั้น ก็ต้องบอกเลยครับว่า มันสามารถกันเสียงได้ก็จริงแต่มีประสิทธิภาพต่ำมากๆ เพราะสังกะสีนั้นบางเกินไป แต่ถ้าหากเราเปลี่ยนจากรั้วสังกะสีมาเป็นรั้วไม้ ความหนาที่เพิ่มขึ้นมาอีกนิด ก็จะทำให้ชีวิตเราห่างจากเสียงรบกวนได้มากขึ้นอีกหน่อยครับ ในขณะเดียวกันถ้าเราเป็นรั้วก่ออิฐฉาบปูนแล้วล่ะก็ จะทำให้ประสิทธิภาพการป้องกันเสียงรบกวนภายนอกนั้นดีเยี่ยม เพราะมีความหนาที่เสียงทะลุผ่านได้ยากนั่นเอง ทั้งนี้ เรามีตัวอย่างความสามารถในการกันเสียงของรั้วที่ใช้วัสดุแตกต่างกันมาให้พิจารณาเป็นแนวทาง ดังนี้ครับ
รั้วก่ออิฐฉาบปูน หนา 20 ซม. กันเสียงได้ 50 dBA
รั้วก่ออิฐธรรมดา หนา 7.5 ซม. กันเสียงได้ 40 dBA
รั้วไม้ หนา 2 ซม. กันเสียงได้ 25 dBA
รั้วสังกะสี หนา 0.4 มม. กันเสียงได้ 17 dBA
2. ความสูงและระยะห่างของรั้ว คือตัวช่วยในการป้องกันเสียง
นอกจากวัสดุที่ใช้ในการทำรั้วบ้านแล้ว สิ่งที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกอีกอย่างก็คือ ความสูงและระยะห่างของรั้วกับตัวบ้านครับ โดยความสูงของรั้วที่เหมาะสมคือ 3 เท่าของความสูงของแหล่งกำเนิด หมายความว่า ถ้าแหล่งกำเนิดเสียงคือรถจากถนนที่มีความสุขประมาณ 1 เมตร รั้วก็ควรจะสูงประมาณ 3 เมตร เพื่อให้สามารถกันเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนในเรื่องของระยะห่างนั้น แนวรั้วยิ่งใกล้บ้านมากเท่าไร ผลของการป้องกันเสียงก็ยิ่งดีมากเท่านั้น
3. รั้วบ้านสั้นเกินไป ก็ทำให้เสียงรบกวนใจเยอะมากขึ้น
ไม่ใช่เพียงแค่ความสูงและระยะห่างของรั้วกับตัวบ้านเท่านั้น ที่ส่งผลต่อการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก แต่ “แนวความยาวของรั้ว” มีก็ผลต่อประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงด้วยเช่นกัน โดยหากแนวรั้วมีความยาวน้อยเกินไป เสียงรบกวนก็จะเดินทางเลี้ยวเบนเข้ามาภายในบ้านได้ง่าย จึงจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงควรทำแนวรั้วให้ยาวเชื่อมต่อกันอย่างน้อย 4 เท่าของระยะห่างแหล่งรับเสียง และทำไมเราถึงต้องทำรั้วล้อมรอบบ้าน เพราะเสียงนั้นสามารถเข้ามาได้จากทุกทิศทุกทาง เราจึงจำเป็นต้องกันเสียงจากทุกทิศทุกทางเช่นกัน
4. ปลูกต้นไม้ใกล้รั้วบ้าน มีผลต่อการป้องกันเสียงรบกวน
หลายคนอาจมองข้ามข้อนี้ไป เพราะคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ในการป้องกันเสียง แต่ถ้าลองพิจารณาดีๆ ว่า ขนาดรั้วไม้ยังมีความสามารถในการกันเสียง ต้นไม้เองก็มีความสามารถนั้นเช่นกัน ดังนั้น การปลูกต้นไม้เสริมไปบริเวณรั้ว เป็นแนวยาวต่อกัน หรือการทำรั้วต้นไม้ ก็นับเป็นหนึ่งในตัวช่วยเรื่องการป้องกันเสียงรบกวนภายนอกได้ดีทางหนึ่ง ที่สำคัญยังช่วยทำให้บ้านของเราร่มรื่นสงบและร่มเย็นมากขึ้นอีกด้วย
แนวทางของการปรับปรุงรั้วบ้าน เพื่อให้มีความสามารถช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกนั้น เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง และสามารถเริ่มต้นทำได้ง่ายๆ ตั้งแต่วันนี้ หากคิดอยากจะแก้ไขปัญหาเสียงรบกวนที่ทำให้เราอยู่อาศัยอย่างไม่มีความสุข แต่อย่างไรก็ตาม หากต้องการให้การปรับปรุงรั้วของเรานั้น มีประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และไม่สิ้นเปลืองงบประมาณแล้ว การขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงโดยตรง ถือเป็นทางออกที่ดี เพราะผู้เชี่ยวชาญสามารถวิเคราะห์ถึงปัญหาเสียงและวิธีการแก้ไขได้อย่างตรงจุด เลือกวิธีการแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ผล โดยไม่สิ้นเปลืองงบประมาณหรือทำให้งบบานปลาย