Search
Close this search box.

“เครื่องวัดระดับเสียง” หัวใจสำคัญ ของบริการแก้ไขปัญหาเสียงในธุรกิจ B2B (Business-To-Business)

การควบคุมเสียงรบกวนภายใน ออฟฟิศ สำนักงาน โรงแรม ห้องประชุม โรงงาน ฯลฯ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การทำงานภายในพื้นที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งการจะแก้ไขปัญหาเสียงที่เจอ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเสียงดังหรือเสียงก้องสะท้อนให้ได้ผลนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ “เครื่องวัดระดับเสียง” ในการตรวจสอบ อันนำไปสู่การวางแผนต่อไปว่าจะแก้ไขปัญหาเสียงอย่างไร เลือกใช้วัสดุอะคูสติกแบบไหน จึงจะตอบโจทย์กับระดับความรุนแรงของปัญหาเสียงที่พบได้ดีที่สุด

เครื่องวัดระดับเสียงคืออะไร ทำไมจึงสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเสียง

เครื่องวัดระดับเสียง (Sound Level Meter) คือ อุปกรณ์สำหรับใช้ในการตรวจสอบเพื่อวัดระดับความดังและความก้องสะท้อนของเสียง สามารถตรวจจับเสียงที่เกิดขึ้นได้ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งให้ข้อมูลที่นำไปวิเคราะห์ประเมินผลกระทบของเสียงต่อ การทำงาน และชุมชนใกล้เคียงได้ โดยเหตุผลที่ทำให้เครื่องวัดระดับเสียงสำคัญมากกับการแก้ไขปัญหาเสียง ก็เพราะ

1. ช่วยให้ผู้วิเคราะห์ วิเคราะห์ปัญหาเสียงได้อย่างแม่นยำ ทำให้ระบุปัญหาได้ว่าเสียงดังหรือก้องสะท้อนมากแค่ไหน ทราบถึงต้นเหตุและทางผ่านของเสียง อันนำไปสู่การวางแผนแนวทางแก้ไขปัญหาเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ช่วยให้ควบคุมเสียงได้ตามต้องการและตามที่กฎหมายกำหนด ในภาคอุตสาหกรรมนั้น จะมีกฎหมายควบคุมระดับความดังของเสียงอยู่ ซึ่งหากโรงงานไม่ควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะถือว่าผิดกฎหมาย และในห้องประชุมออฟฟิศสำนักงานที่มักพบปัญหาเสียงก้องสะท้อน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการใช้งาน หากไม่แก้ไขให้ดีก็จะทำให้ไม่สามารถใช้งานห้องประชุมได้ ดังนั้น เครื่องวัดระดับเสียง จึงมีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยให้เราทราบว่า ต้องแก้ไขปัญหาเสียงอย่างไร ให้ระดับเสียงดังหรือเสียงก้องสะท้อนลดลงมาอยู่ตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด หรือในระดับที่ช่วยให้ใช้งานพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ช่วยคืนความสงบสุขให้กับพื้นที่ทำงาน ถ้าปราศจากเครื่องวัดระดับเสียงที่แม่นยำและมีคุณภาพแล้ว การวางแผนแก้ไขปัญหาเสียงก็จะอาจไม่ได้ผล ทำให้ไม่สามารถกันเสียงดังทะลุเข้าออกได้จริง ไม่สามารถควบคุมเสียงก้องสะท้อนในห้องได้อย่างที่คาดหวัง ในมุมโรงงานอุตสาหกรรมอาจได้รับผลกระทบถึงสุขภาพหูของพนักงาน โดยเฉพาะพนักงานในไลน์ผลิต เนื่องจากทำงานใกล้ชิดกับเครื่องจักร รวมถึงใกล้กับบริเวณที่อาจเป็นต้นกำเนิดเสียง ยิ่งไปกว่านั้นอาจเสี่ยงต่อการถูกร้องเรียน ตรวจสอบจนถูกสั่งปิดกิจการได้ และในมุมออฟฟิศอาจทำให้การทำงานเป็นไปอย่างไม่มีคุณภาพ และยังเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาสุขภาพกายและใจตามมาได้ด้วย

ทำไมต้องใช้บริการวัดระดับเสียงกับ SCG Acoustic Expert

เนื่องจากการวัดระดับเสียง เป็นจุดเริ่มต้นที่จะกำหนดทิศทางของการแก้ไขปัญหาเสียงได้เลยว่าจะสำเร็จ ล้มเหลว หรือมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน ดังนั้น จึงควรพิจารณาเลือกใช้บริการช่างที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยตรง โดยเหตุผลที่ควรใช้บริการวัดระดับเสียง กับทีมงาน SCG Acoustic Expert มีดังต่อไปนี้

1. ดำเนินการวัดระดับเสียงด้วยเครื่องวัดระดับเสียงคุณภาพ แม่นยำสูง ได้มาตรฐาน IEC61672 ใช้เครื่องวัดเสียงคุณภาพระดับ Class 1 ซึ่งถือว่าดีที่สุด ทำให้ได้ข้อมูลมาวิเคราะห์ต่อได้ลึกและละเอียดมากกว่า Class อื่น ๆ มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ทั้งเพาวเวอร์แอมป์ หรือ Power Amplifier และ ตัวกระจายเสียง หรือว่า Omni directional เป็นต้น
2. ดำเนินการ สำรวจหน้างาน คำนวณค่าเสียงที่มาตรฐานกรมโรงงานและกรมควบคุมมลพิษวัด โดยการระดับเสียงโดยวิศวกรเฉพาะทางด้านเสียง มีประสบการณ์ในการวัดระดับเสียง พร้อมวางแผนแก้ไขปัญหาเสียงดัง เสียงก้องสะท้อนมาแล้วกว่า 3,000 เคส
3. ดำเนินการออกแบบแก้ไขปัญหาเสียงให้แบบ Case by Case โดยจะทำรายงานให้พิจารณาหลังจากการตรวจวัดระดับเสียงเสร็จเรียบร้อย ซึ่งจะเห็นทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหา ประเภทของวัสดุที่ต้องใช้ และงบประมาณเบื้องต้น ทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจ
4. บริการครบจบในที่เดียวแบบ One Stop Service โดยนอกจากจะวัดระดับเสียงและวิเคราะห์แนวทางการแก้ไขปัญหาเสียงให้ได้แล้ว ยังสามารถบริการให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้งจนจบงานให้ได้เลยแบบครบวงจร โดยช่างติดตั้งมาตรฐานจาก SCG

ทีมงาน SCG Acoustic Expert บริการแก้ไขปัญหาเสียง ด้วยเครื่องวัดระดับเสียงระดับคุณภาพระดับสูง

พื้นที่ธุรกิจใดก็ตามที่มีปัญหาเสียงดังหรือเสียงก้องสะท้อน การแก้ไขปัญหาเสียงที่มีประสิทธิภาพที่สุดนั้น คือการวางแผนติดตั้งระบบผนังกันเสียงดังทะลุเข้าออก และระบบผนังดูดซับเสียงก้องสะท้อน แต่การดำเนินการติดตั้งจะมีความเสี่ยงอย่างมาก หากไม่ได้รับการตรวจวัดระดับเสียงก่อนด้วยเครื่องวัดระดับเสียงที่มีคุณภาพ ซึ่งด้วยตระหนักในปัญหานี้ และปรารถนาที่จะให้การแก้ไขปัญหาเสียงในทุก ๆ พื้นที่ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด ทีมงาน SCG Acoustic Expert จึงให้บริการตรวจวัดระดับเสียงด้วยเครื่องวัดระดับเสียงคุณภาพ มีแม่นยำสูงตามมาตรฐาน IEC61672 ก่อนทุกครั้ง โดยอุปกรณ์ในการตรวจวัดระดับเสียงที่ทีมงาน SCG Acoustic Expert ใช้ มีดังต่อไปนี้

1. เครื่องวัดเสียงคุณภาพระดับ “ Class 1”
ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องวัดระดับเสียงที่ดีที่สุด ข้อมูลที่ได้จากเครื่องสามารถนำมาวิเคราะห์ต่อได้อย่างละเอียดลึกซึ่งกว่าเครื่องวัดระดับเสียง Class อื่น ๆ ใช้วัดระดับความดังของเสียงโดยมีหน่วยเป็น dB สามารถวัดได้ทั้งค่าการกันเสียงของระบบผนัง (STC)* และค่าความก้องภายในห้อง (RT)** และค่าระดับเสียงพื้นฐานในอาคาร NC***


เครื่องวัดระดับเสียง

*STC = Sound Transmission Class หมายถึง ค่าประสิทธิภาพการป้องกันเสียงของระบบผนัง โดยยิ่งค่า STC สูงแสดงว่ายิ่งสามารถกันเสียงได้ดี
**RT= Reverberation Time หมายถึง ระยะเวลาความก้องสะท้อน (Reverberation Time) คือ เวลาในการสะท้อนกลับของต้นเสียง โดยเป็นวัดค่าของเวลาที่เสียงสะท้อนกลับ ซึ่งผลของการสะท้อนกลับนั้น หากสะท้อนน้อยเกินไปจะทำให้เสียงไม่มีชีวิตชีวา แต่หากสะท้อนกลับมากเกินไป ก็จะกลายเป็นเสียงรบกวน
*** NC= Noise Criteria หมายถึง ค่าความเงียบ หรือค่าระดับเสียงพื้นฐานภายในอาคาร เป็นค่าที่ได้รับการสร้างขึ้นมาเป็นเกณฑ์เพื่อวัดความเงียบภายในห้อง หรือ ภายในอาคาร ผู้คิดค้นกำหนดคือ Leo Beranek ซึ่งนิยมนำมาใช้ในงานตรวจสอบคุณภาพงานออกแบบ และติดตั้งระบบปรับอากาศ โดยข้อกำหนดในการออกแบบอคูสติกภายในอาคารแทบทุกงานจะมีการกำหนดค่า NC ภายในอาคารทุกครั้ง

READ  คุณสมบัติของเสียง ความรู้เบื้องต้นการจัดการเรื่องเสียง

2. เพาเวอร์แอมป์ (Power Amplifier) เป็นตัวกลางในการขยายสัญญาณจาก source เสียงไปยัง Omni directional
และเป็นตัวสร้าง White noise และ Pink noise (ใช้เป็นส่วนใหญ่) ไปยัง Omni directional


Power Amplifier

3. Omni directional sound source ใช้เป็นตัวแทนแหล่งกำเนิดเสียง


Omni Directional

ธุรกิจใดบ้าง เหมาะใช้บริการวัดระดับเสียง ด้วยเครื่องวัดระดับเสียงคุณภาพ

ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าธุรกิจใดก็แนะนำให้ใช้บริการวัดระดับเสียงด้วยเครื่องวัดระดับเสียงคุณภาพ หากพบว่ามีปัญหาเสียงดังหรือปัญหาเสียงก้องสะท้อนเกิดขึ้นภายในพื้นที่ จนเป็นปัญหาและส่งผลกระทบทั้งต่อพนักงานและชุมชนใกล้เคียง ทั้งนี้ เพราะหากปล่อยให้ปัญหาเสียงก้องสะท้อนยังคงอยู่ ก็จะบั่นทอนประสิทธิภาพในการทำงานให้แย่ลง ในขณะที่หากปล่อยให้ปัญหาเสียงดังยังคงมีต่อไป ก็อาจเสียงต่อการถูกร้องเรียน ตรวจสอบจนถูกสั่งปิดกิจการได้ เนื่องจากมีกฎหมายควบคุมเอาไว้ว่า ผู้ประกอบการจำเป็นต้องควบคุมระดับความดังของเสียงไม่ให้เกิดตามเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ ในปัจจุบันธุรกิจที่มักต้องใช้บริการวัดระดับเสียงเพื่อแก้ไขปัญหาเสียง มีดังต่อไปนี้

1. โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นปัญหาเสียงดังจากเครื่องจักร และกิจกรรมในกระบวนการผลิต ทำให้ถูกร้องเรียนจากชุมชนใกล้เคียง และเสี่ยงถูกตรวจสอบจนโดนสั่งปิดโรงงานได้ จึงจำเป็นต้องใช้บริการตรวจวัดระดับเสียง เพื่อต้องการทราบถึงระดับความดังของเสียง ตลอดจนทราบถึงแหล่งกำเนิดเสียงว่ามาจากตำแหน่งใดบ้าง ก่อนวางแผนแก้ไขปัญหาเสียงดังบริเวณแหล่งกำเนิดเหล่านั้น ให้ระดับเสียงดังได้รับการควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
2. โรงแรม มักมีปัญหาเสียงในหลาย ๆ เรื่อง เช่น ในการออกแบบก่อสร้างห้องพัก จะมีมาตรฐานของเครือโรงแรมกำหนดอยู่แล้วว่าภายในห้องต้องมีค่า NC หรือค่าความเงียบ ค่าระดับเสียงพื้นฐานในอาคารเท่าไร ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงกับการเข้าพักของลูกค้า และในการแก้ไขปัญหาก็ต้องจัดหาวัสดุอะคูสติกมาทำผนังห้องให้สามารถกันเสียงดังเข้าออกได้ดี มีค่า STC หรือค่าการกันเสียงที่มากพอ ดังนั้น บริการวัดระดับเสียงจึงจำเป็นสำหรับธุรกิจโรงแรมตั้งแต่เริ่มต้นสร้างและออกแบบ ซึ่งหากไม่ได้มีการตรวจวัดระดับเสียงตั้งแต่ต้น สุดท้ายเมื่อเกิดปัญหาเสียงดังทะลุเข้าออกห้องพัก ก็จำเป็นต้องกลับมาตรวจวัดระดับเสียง และหาแนวทางแก้ไข ด้วยการเสริมระบบผนังกันเสียงในภายหลังอยู่ดี
3. ห้องประชุมในออฟฟิศ ปัญหาที่เจอจะมีทั้งเรื่องของเสียงดังจากภายนอกทะลุเข้าไปรบกวนในห้องประชุม และปัญหาเสียงดังจากในห้องประชุมออกไปรบกวนบริเวณภายนอกห้อง นอกจากนั้นแล้ว ที่พบได้บ่อยก็ยังเป็นปัญหาเสียงก้องสะท้อนภายในห้องประชุม ที่ทำให้การสื่อสารภายในห้องไม่มีคุณภาพ บริการวัดระดับเสียงจึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ทราบระดับเสียงรบกวนที่เป็นปัญหา อันนำไปสู่การแก้ไข เลือกใช้วัสดุอะคูสติกที่เหมาะสมกับประเภทของปัญหาเสียง อีกทั้งยังช่วยเรื่องการคำนวณงบประมาณในการดำเนินการแก้ไขปัญหาเสียงได้เป็นอย่างดี ทำให้วางแผนในการอนุมัติงบประมาณในการแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ฮอลล์คอนเสิร์ต ปัญหาที่พบจะแบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ ต้องการควบคุมคุณภาพเสียงภายในฮอลล์ให้ดีเพื่อให้เสียงนักร้องและดนตรีในการจัดแสดงมีความไพเราะมากที่สุด กับอีกส่วนหนึ่งคือ ต้องควบคุมไม่ให้เสียงดนตรีภายในฮอลล์ดังทะลุออกไปรบกวนภายนอก การวัดระดับเสียงจึงสำคัญอย่างมาก เพราะจะทำให้ทราบถึงระดับเสียงรบกวน ทั้งเสียงดังและเสียงก้องสะท้อน อันนำไปสู่การหาแนวทางในการแก้ไข ว่าจะต้องใช้วัสดุอะคูสติกแบบใดในการแก้ไขปัญหาและต้องใช้ปริมาณมากน้อยแค่ไหนเพื่อให้ควบคุมเสียงดังและเสียงก้องสะท้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบริการวัดระดับเสียง ด้วยเครื่องวัดระดับเสียงคุณภาพจาก Acoustic Expert

1.
คำถาม : ลูกค้าจะได้รับอะไรบ้าง เมื่อตัดสินใจเลือกใช้บริการวัดระดับเสียง
คำตอบ: สิ่งที่จะได้รับจากบริการตรวจวัดระดับเสียง ได้แก่

• ได้รับทราบตำแหน่งต้นตอปัญหาเสียงและระดับของเสียงรบกวน ผ่านรายงานโดยละเอียด ตามปัญหาของลูกค้า เช่น ปัญหาเสียงก้องในห้องประชุม ลูกค้าจะได้รับรายงานค่าความก้องภายในห้อง (ค่า Reverberation Time) หรือหากลูกค้ามีปัญหาเสียงดังทะลุเข้าออกผนัง ก็จะได้รับรายงานระดับเสียงรบกวน (dB)
• ได้รับทราบแนวทางในการแก้ไขปัญหาเสียง พร้อมงบประมาณเบื้องต้น โดยจะได้รับรายงานนำเสนอวัสดุอะคูสติกที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการแก้ไขปัญหา ปริมาณที่ต้องใช้ แนวทางในการติดตั้งวางระบบ และงบประมาณในการดำเนินการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเสียงให้ลูกค้าสามารถกลับมาใช้งานพื้นที่นั้น ๆ ได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น
• ได้รับส่วนลดสำหรับบริการครบวงจรเต็มจำนวนโดยลูกค้าสามารถใช้ค่าบริการวัดเสียงเป็นส่วนลดได้เต็มจำนวน*
*เฉพาะบริการออกแบบและติดตั้ง (solution)
*เฉพาะลูกค้าที่มีพื้นที่ติดตั้งขั้นต่ำ 100 ตร.ม.

2.
คำถาม : บริการวัดระดับเสียง มีขั้นตอนในการดำเนินการอย่างไรบ้าง
คำตอบ : โดยทั่วไปแล้วสำหรับ ห้องประชุม หอประชุม ห้องเรียน โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม จะมีขั้นตอนในการวัดระดับเสียงเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเสียง ดังต่อไปนี้

• นัดหมายรับบรีฟรายละเอียดปัญหาที่พบ และพาสำรวจห้องหรือสถานที่ที่มีปัญหาเสียงรบกวน
• วิศวกรเลือกตัววัดผลที่อยากทราบตามโจทย์ปัญหาของลูกค้า เช่น กรณีปัญหาเสียงดังทะลุเข้าออก จะพิจารณาที่ค่า STC และค่า STI
• วิศวกรดำเนินการวัดระดับเสียง กรณีเป็นปัญหาเสียงดังทะลุเข้าออก จะวางอุปกรณ์ omni directional ไว้ด้านใน และ วัดเสียงที่ด้านนอก รวมถึงห้องข้าง ๆ หากเป็นปัญหาเสียงก้องจะวาง omni directional ในห้อง พร้อมวัดเสียงภายในห้อง
• วิศวกรสรุปผลค่าเสียงที่ได้จากการวัดระดับเสียง
• วิศวกรนำเสนอรายงานการวัดระดับเสียง พร้อมแนวทางในการแก้ไขและงบประมาณเบื้องต้น

3.
คำถาม : การวัดระดับเสียงต้องใช้ระยะเวลามากน้อยแค่ไหน
คำตอบ : ระยะเวลาในการวัดระดับเสียง จะขึ้นอยู่กับพื้นที่ จำนวนห้อง ณ หน้างาน ตลอดจนความพร้อมของหน้างาน เช่น ห้องประชุมเล็กขนาด 4-6 ที่นั่ง สามารถวัดระดับเสียงให้แล้วเสร็จได้ตั้งแต่ช่วงเช้าของวัน แต่หากห้องมีขนาดใหญ่มากก็จะใช้เวลานานขึ้น และหากหน้างานมีอุปสรรคในการดำเนินการ ก็จะยิ่งใช้เวลานานขึ้น

4.
คำถาม : ในการรับบริการวัดระดับเสียง มีเงื่อนไขอะไรบ้าง?
คำตอบ : เงื่อนไขในการรับบริการวัดระดับเสียง มีดังต่อไปนี้

• กรณีเป็นงานห้องประชุม โรงแรม ห้องเรียน โรงพยาบาล ลูกค้าจำเป็นต้องจัดเตรียมห้องไว้ให้พร้อม โดยไม่มีคนเข้าใช้งานในพื้นที่ จัดให้เป็นระบบปิด ไม่เปิดประตูหน้าต่าง และต้องมีไฟฟ้าใช้สำหรับอุปกรณ์ในการตรวจวัด
• กรณีเป็นโรงงานอุตสาหกรรม ลูกค้าจะต้องดำเนินการประสานทีมงานให้ทำงานตามปกติในทุกจุดที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียง เพื่อให้การตรวจวัดระดับเสียงได้ค่าเสียงที่แท้จริงของแต่ละแหล่งกำเนิด อันจะนำไปสู่การแก้ไขที่มีประสิทธิภาพ
• ลูกค้าต้องแจ้งช่วงเวลาที่ไม่มีการทำงานของเครื่องจักร เพื่อให้ทีมงานวัดค่า Background Noise หรือการวัดเสียงจุดที่ได้รับผลกระทบ เช่น บริเวณที่อยู่อาศัย เพื่อหาแนวทางในการป้องกันเสียงดังที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนใกล้เคียง

5.
คำถาม : นอกจากบริการวัดระดับเสียงแล้ว มีบริการอื่น ๆ อีกหรือไม่?
คำตอบ : นอกจากบริการวัดระดับเสียงแล้ว ทีมงาน SCG Acoustic Expert ยังให้บริการครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา คำนวณปริมาณวัสดุอะคูสติก ออกแบบ รวมถึงติดตั้งวัสดุอะคูสติกเพื่อแก้ไขปัญหาเสียง ซึ่งจะดำเนินการโดยทีมช่างมาตรฐาน SCG เรียกได้ว่า อยากแก้ไขปัญหาเสียงดัง ปัญหาเสียงก้องสะท้อน ติดต่อเราก็ครบจบได้ในที่เดียว

READ  ออกแบบสร้างอาคารที่อยู่อาศัย อะไรควรเป็นเป้าหมายสูงสุด

สรุป
เครื่องวัดระดับเสียง คือเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาเสียงดัง ปัญหาเสียงก้องสะท้อนให้มีประสิทธิภาพ หากปราศจากเครื่องวัดระดับเสียงที่มีคุณภาพแล้ว ก็ยากที่จะสามารถแก้ไขปัญหาเสียงให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ลดระดับเสียงก้องสะท้อนลงได้ตามต้องการหรือตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากเครื่องวัดระดับเสียงที่มีคุณภาพแล้ว ในการแก้ไขปัญหาเสียง ก็ยังต้องอาศัยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาเสียงที่มีประสบการณ์เป็นผู้ดูแลด้วย เพื่อให้สามารถวางแผนออกแบบแก้ไขปัญหาเสียงได้อย่างเหมาะสม แม่นยำ ตรงจุด ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมและตรงตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เพื่อคืนความสงบสุขให้กับพื้นที่และชุมชนใกล้เคียง ตลอดไปจนถึงช่วยยกระดับประสิทธิภาพการใช้เสียงที่ราบรื่นไพเราะให้กับพื้นที่

สนใจบริการตรวจวัดระดับเสียงด้วยเครื่องวัดระดับเสียงคุณภาพ หรือสนใจปรึกษาขอคำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเสียงดัง เสียงสะท้อน ในห้องประชุม โรงงาน โรงแรม หรือที่อยู่อาศัย สามารถสอบถามทีมงาน SCG Acoustic Expert ได้ฟรีผ่านช่องทางออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความที่น่าสนใจ

ท่านสามารถขอยกเลิกความยินยอม ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับข้อมูลที่ Acoustic Expert เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ใช้บังคับ โดยที่ระบุไว้ใน นโยบายความเป็นส่วนตัว หรือติดต่อที่ data.privacy@scg.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า